วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566

สารรักที่ 8

    "นี่ เลิกเรียนแล้วไปคาราโอเกะกันเถอะ!”


    เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กสาวผมสั้นดังบอกอย่างเริงร่า พร้อมระบายรอยยิ้มสดใส ขณะที่ในมือถือตะเกียบและเบื้องหน้าก็มีเบนโตะอาหารกลางวัน


    ทาเคชิคีบไข่หวานก่อนเอียงคอมองเพื่อนสนิทตาปริบ ๆ ข้างกันมีฮารุโกะที่นั่งกินไส้กรอกทอดคุณปลาหมึกอย่างเอร็ดอร่อยและไดจิที่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาจากมือกลางวัน


    “วันนี้ไม่มีอะไรต้องไปทำต่อกันใช่ไหมล่ะ”


    “งั้นก็ไปคาราโอเกะกันเถอะ”


    โอชาโกะเอ่ยชวนต่อพลางส่งสายตาเป็นประกาย ให้เพื่อนร่วมโต๊ะอาหารกลางวัน แล้วเด็กสาวหน้างอเมื่อได้ยินคำตอบที่ได้รับ


    "ผมคงต้องขอผ่าน- แบบว่ากลับค่ำไม่ได้น่ะ "


    "ขอโทษนะครับ”


    เด็กหนุ่มผมดำบอกพร้อมยกมือขึ้นมาประกบเป็นเชิงขอโทษคานาเอะ


    “งั้นไปแค่เกมเซนเตอร์ แล้วไม่ต้องกลับค่ำก็ได้ หรือจะไปที่อื่นก็ได้ แต่ไปเที่ยวกันเถอะ นะ!"


    “ฮารุจังกับไดจิคุงจะไปใช่ไหม นี่ ช่วยพูดกับทาเคชิคุงหน่อยสิ"


    ริโกะหันไปหาเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนที่พึ่งมาร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกันได้ไม่นานนัก เริ่มจากทาเคชิไปชวนฮารุโกะมากินข้าวด้วยกัน และฮารุโกะก็ชวนไดจิมาอีกทอดนึง


    ไดจิทำท่าครุ่นคิด เหมือนกำลังนึกทวน


    “วันนี้ก็ไม่ได้มีธุระอะไรจริง ๆ นั่นละ ไม่มีเรียนพิเศษด้วย"


    “ฉันไปได้ ไม่ต้องเข้าชมรม"


    ว่าขึ้นก่อนพลางขยับแว่น ฮารุโกะนั่งนิ่งอยู่นาน พูดต่อสั้น ๆ แล้วกลับไปเอ็นจอยกับเบนโตะฝีมือคุณตาของทาเคชิ (ที่เจ้าตัวไปขอให้คุณตาทำมาเผื่อเขา)


    โอชาโกะหันมาทางทาเคชิอีกครั้ง พร้อมทำหน้าตาอ้อนวอน


    “ทาเคชิคุง ไปเถอะนะ”


    “ก็เดี๋ยวทุกคนต้องไปเตรียมสอบกันแล้ว ไหนจะเรื่องเรียนต่อ ปีนี้ก็จบการศึกษาแล้วด้วยนี่นา"


    ยังไม่ลดละความพยายาม พอได้ยินคําพูดที่เพื่อนสาวยกขึ้นมาประกอบ ทาเคชิเริ่มจะใจอ่อนขึ้นมา ดวงตาสีสวยมองไปทางเพื่อนใหม่ผมน้ำตาล ที่ตอนนี้เงยหน้าขึ้นมาจากกล่องเบนโตะแล้วมองมาทางเขาอย่างคาดหวัง แม้ใบหน้าเล็กจะเรียบนิ่ง แต่ทาเคชิรู้ว่าในดวงตาสีใสคู่นั้นกักเก็บแววแห่งความตื่นเต้นเอาไว้


    ถ้าจะไม่ไปก็คงจะใจร้ายสินะเนี่ย...


    นึกแบบนั้นแล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ 


    "ถ้าแค่เกมเซนเตอร์ละก็นะครับ..


พูดจบก็ได้ยินเสียงร้องอย่างดีใจของโอชาโกะ อิ กะทิปรามให้เด็กสาวเบาเสียง และโชโตะที่แต่งแต้ม รอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้


กลับเย็นสักวันก็คงไม่เป็นอะไรห


(


เสียงในเกมเซนเตอร์ค่อนข้างติ


ทั้งเสียงเพลงที่ชวนให้รู้สึกสนุก เสียงผู้คนมาก มายที่ดังเข้ามาในโสตประ


แสงไฟหลากสีสันจากตู้เกมแต่ละตู้แย่งกันเป็นที่ สะดุดตา เชื้อเชิญให้เข้าไปเล่


ทุกอย่างแปลกใหม่และดูน่าตื่นตาไปหมด สําหรับโช


เด็กหนุ่มยืนแข็งท้อ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เหมือนนี่เป็นโลกอีกใบที่เขาไม่เคยรู้จัก ดวงตาสองสี กวาดมองไปมาจนทั่ว เห็นคนในเครื่องแบบนักเรียน หลากหลายเดินกันท ท ทว โอซาโกะและอิตะอยู่ตรง นั้นโตะนสาทง2)รอกา."า ๆย


ถ้ามัวแต่ยืนนิ่งแบบนี้คงจะไม่ได้เล่น


แต่คนไร้ประสบการณ์แบบเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่ม จากตรงไหน


จนมีมือมาจับที่ไหล่ พอหันไปก็พบว่ามันคือเพื่อน ร่วมห้องอย่างอิ ค


“โทโดโรกิคุง"


“มาเกมเซนเตอร์ครั้งแรกนะ”


คนผมฟูตามด้วยรอยยิ้ม โชโตะพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบคําถามนั่น


“ด้วยเหรอ”


"เดาเอาน่ะ"


อยากเล่นอะไรหรือเปล่า ผมไปแลกเหรียญมา แล้วละ"


ว่าจบก็โชว์เหรียญร้อยเยนหลายเหรียญในมือ โชโตะที่ไม่รู้จะเล่นอะไรดีก็ล่ายหน้าปฏิเสธ พอเห็นแบบ นั่น อิชิค ทาสีหน้าครุ่นคิด


"งั้นไปเล่นอันนั้นกัน


ยกนิ้วขึ้นชี้ตู้เกมตู้นิ่งพลางคว้าข้อมือของคนตัวสูง -จูงให้เดินไปด้วยกัน เด็กหนุ่มผู้เคยมาเกมเซนเตอร์ ครั้งแรกไม่ได้ขัดขืนอะไร ปล่อยให้คนตัวเล็กกว่าผู้มี ประสบการณ์มากกว่าเป็นคนนำทางในสถานที่ที่ไม่คุ้น เคยแห่งนี้


"เกมวัดพลังน่ะ วิธีเล่นที


หันมาบอกก่อนจะหยอดเหรียญไปในตู้เกมขนาด ใหญ่ที่มีนวมแบวนเอาไว้ให้ต่อย


อิซึคุหายใจเข้าพร้อมทำหน้าฮีด - เหวี่ยงหมัด เต็มแรงไป นวม คนผมสองสมองอีกคนไม่วางตา ใน ห้วแวบความคิด นมา ท่าทางจริงจังและสีหน้ายิงยังมั่น ดู-น่ารักดี


แล้วตัวเลขก็ปรากฏบนจอ โชโตะตื่นเต้นกับสิ่ง ใหม่ที่พึ่งเคยเห็น


“ท้าลายสถิติไม่ได้แยะ” อิชิ บ่นด้วยทีท่าเสียดาย ยกรอยยิ้มพร้อมสายหน้าน้อย ๆ


“โทโดโรกิคุง ลองดูไหมครับ


หลังสาธิต เล่นเสร็จก็หันมาพร้อมยื่นเหรียญมา ให้ เด็กหนุ่มผมสองพยักหน้า รับเหรียญมาจากคน ตัวเล็กกว่า หยอดมันเข้าไปในตู้


สู้เขา! ใส่เต็มแรงไปเลยนะ"


เสียงนุ่มร้องเชียร์ โชโตะพยักหน้าให้ก่อน หน้า อืดบ้าง-ตามแบบที่อิชิ ท่าน ดูเป๊ะ แล้วก็ง้างหมัด เข้าไปที่นวนเต็มแรง


นามสีสดแกว่งไปมาพร้อมตัวเลขที่ปรากฏขึ้นบน จอ อิชิคุฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาเบิกขึ้นอย่างดีใจ โซโตะ ง รู้ตอนอีกคนบอกว่านั่นคือสถิติใหม่ที่เขาเป็นคนทํา


“สุดยอดไปเลยโทโดโรกิคุง! พึ่งรู้ว่าแรงเยอะ ขนาด


..นก็พึ่งรู้เหมือนกัน"


รอบค่าชมนั่นแบบขัดเย็นด้วยไม่รู้จะพูดอะไร ตอบ ลอบยิ้มหน่อย ๆ เมื่อโดนชม ดีใจ รู้สึกแบบนั้น


อิ พยักหน้า เขาพยายามสังเกตท่าทาง ของโชโตะอยู่ตลอด ด้วยแอบกังวลว่าคนตัวสูงจะไม่ สนุก แต่พอเห็นอีกคนเริ่มคุ้นเคยกับสถานที่แห่งใหม่ เริ่มโล่งใจ


ก็ก่อนหน้านี้ทำหน้ายังกับแมวสิ้นคนเลยนี่นะ แล้วก็หันหน้า เมื่อมีมือมาสะกิดจากด้านหลัง


อิซึคุหันมาแล้วเอ่ยถาม โซโตะเริ่มกวาดสายตา มองหาเป้าหมายต่อไปที่จะเล่น ก่อนจะสะดุดเข้ากับตู้ คีบตุ๊กตารูปแมว


แต่ยังไม่ทันพูดอะไร ก็โดนขัดขึ้นมาเสียก่อน


*อิ คุคุณ โทโดโรกิคุง อยู่นี่เอง"


"ไปถ่ายรูป สติกเกอ กัน"


เป็นโอฮาโกะที่เดินเข้ามาระหว่างพวกเขาสองคน เด็กสาวว่าพลางยกนิ้วชี้ไปทางสี่เหลี่ยม ๆ มีทางเข้าไม่ กว้างนักและม่านแขวนปิด เพราะคิดว่าโชโตะคงจะ สงสัย อิชิ จึงหันมาอธิบาย


"ตู้ถ่ายรูปน่ะโทโดโรกิคุง แล้วจะมีให้แต่งรูป แต่ง สมิกเกอร์ตอนถ่ายเสร็จ


พยายามพูดให้เข้าใจง่ายที่สุด พอสิ้นเสียง โชโตะ ก็พยักหน้าหงิกหงักเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนทั้งคู่จะถูก โอชาโกะจูงเต็มไปไว ๆ ณ ตู้ มีอีดะยืนรออยู่แล้ว


"เอ้า เข้าไปเร่ว


โอชาโกะบอกพลางยังเพื่อนร่วมห้องสองคนเข้า ไปในตู้ถ่ายรูป ก่อนตัวเองจะตามเข้าไปที่หลัง ไม่ลืมดึง อิดะห์ยืนอยู่ตามเข้ามาด้วย


ท-โทโดโรกิคุง ผมเบียดเธอหรือเปล่า


อิ คุถามอย่างอีกอัก เพราะมันแคบ เลยช่วยไม่ ได้ที่จะต้องชิดกันเข้ามาหน่อยเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้พอ สำหรับคนสี่คน โซโตะตอบปฏิเสธกลับไป แม้จะใกล้กัน จนไหล่ชิด แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร


ถึงจริง ๆ จะแอบรักขัดเขินอยู่บ้างก็เถอะ แล้วโอชาโกะก็ร้องบอกขึ้นมาว่ากำลังจะเริ่มถ่าย


เด็กหนุ่มสามคนกับเด็กสาวอีกหนึ่งอัดกันอยู่ในตู้ สติกเกอร์ ไม่นานนักก็ถ่ายเสร็จ ก่อนจะมาออกันอยู่ ณ หน้าจอแต่งรูป โอซาโกะรับหน้าที่คนถือปากกา สําหรับจิ้มหน้าจอกันติดอยู่กับตู้ จรดปลายปากกาลง บนหน้าจอแต่งรูปอย่างเชี่ยวชาญ


เสร็จแล้ว!!


สิ้นเสียงเด็กสาว รูปก็ถูกปรินท์ออกมาจากถ่าย เกวัยมัธยมปลาย คนมุงดูแผ่นพลาสติกฉาบรูปภาพ ที่พวกเขาพึ่งถ่ายไปเมื่อครู่


อีดะขมวดคิ้วมอง ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา เพราะภาพตัวเองในนั้น


“ฉันตาโตแล้วไม่เช้าเลยนะ"


เป็นโชโตะที่พูดขึ้นต่อขณะจ้องรูปถ่ายตัวเองไม่ วางตา ภาพตัวเขาที่ชูสองนิ้วหน้านิ่ง ๆ และส่วนดวงตา ที่ถูกแต่งให้โตเป็นพิเศษ


*ไม่จริงสักหน่อย เธอน่ารักออกนะโทโดโรกิคุง!


อิชิ เอ่ยชมขึ้นมาทันทีหลังได้ยินอีกคนพูดเช่น นั้น ก่อนเจ้าตัวจะชี้รูปตัวเองบ้าง


“นี่ ดูผมสิ ตลกเนอะ”


ว่าพร้อมหัวเราะ เด็กหนุ่มที่ตาโตอยู่แล้ว พอแต่ง ภาพเข้าไปก็กลายเป็นว่าตาโตกว่าเดิมเสียอย่างนั้น ตามมาด้วยโอซาโกะและอีละที่หัวเราะตามด้วย


ให้โทโดโรกิคุงเก็บไว้ละกัน


ให้ฉัน? *


อือ ก็เดี๋ยวก็สอบแล้วก็ปิดเทอมแล้วนี่เนอะ แล้ว ทุกคนก็คงไปเตรียมสอบเข้ากันหมดแล้ว คงไม่ได้มา เที่ยวแบบนี้บ่อย ๆ เอ้า เก็บเอาไว้นะ"


ยินเสียงเพื่อนร่วมห้องพูดคุยกัน แผ่นพลาสติก พิมพ์ลายภาพถ่ายของพวกเขาเมื่อครู่ถูกส่งต่อไป ให้โชโตะ ก่อนโอชาโกะจะร้องขึ้นอย่างเริงร่า


จริงด้วย ปิดเทอม!"


ทุกคนไปดูดอกไม้ไฟด้วยกันเถอะ อิชิคุคุงไปด้วย กันนะ"


หันมาหาเขาด้วยแววตาเป็นประกาย พร้อมคำขอ ร้อง อิ ทำให้ไม่ได้


ดอกไม้ไฟมันจุดตอนค่ำ ๆ นี่นะ


*เอ เรื่องนั้นคงไม่ได้จริง ๆ ทุกคนไปกันได้เลย ครับ ผมไปไม่ได้น่ะ


ปีนี้ก็ด้วยเหรอ ตั้งแต่รู้จักกันมาเรายังไม่เคยไปดู ด้วยกันเลย...


“ขอโทษจริง ๆ นะครับคุณอุรารากะ ผมมีเหตุผล นิดหน่อยน่ะ"


บอกปฏิเสธ แม้จะตามมาด้วยสีหน้าเสียดายของ โอซาโกะ แต่เซสก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากจะต้อง ไม่รับค่าชวนของเพื่อนสนิท


ก่อนอิชิคจะนิกอะไรออก


*อะ ผมขอตัวสักเดียวนะ มีเรื่องทีต้องไปหาน่ะ จะกลับกันไปก่อนก็ได้นะ"


เด็กหนุ่มผมฟูเอ่ยบอก ยกมือสองข้างขึ้นประกบ


เข้าหากันทําทีเหมือนขอโทษ


“อื้อ รอได้น่า ไม่ต้องรีบนะอิชิคุคุง”


โอซาโกะยังตอบกลับอย่างร่าเริงเช่นเดิม อิชิคุ พยักหน้ารับ โซโตะเหมือนเห็นดวงตาสีมรกตคู่นั้นแอบ ลอบมองมา ก่อนจะหลบไปเมื่อเห็นว่าเขาสบกลับ


อิชิคเดินปลีกออกไปแล้ว อีดะเห็นแบบนั้นก็ขอตัว ไปซื้อเครื่องดื่ม โชโตะกวาดสายตา เห็นแผ่นหลังของ คนตัวเล็กกว่าในเกมเซนเตอร์อยู่ลับ


ก่อนโอชาโกะจะดึงแขนเสื้อเขาแล้วเอ่ย


“โทโดโรกิคุง ว่างใช่ไหม "


ไปหมุนกาชาปองด้วยกันหน่อย


(3)


เสียงแทรก แทรกดังขึ้นเมือลูกบิลของตู้กาชาปอง ถูกหมุน


โชโตะมองเพื่อนร่วมห้องที่กำลังไยกาชาปองอย่าง ขันแข็ง ในขณะที่เขาผู้ถูกลากมา กำลังนั่งมองอีกคน อยู่เฉย ๆ ไข่กาชาปองกลิ้งหลุน ๆ ลงมาจากตู้ แล้วก็ โอชาโกะพ่นลมหายใจ เมื่อของที่ได้ไม่ใช่ลายที่ต้องการ


เง็กสาวเก็บมันลงถุง หยอดเหรียญลงไปในตู้ าหรับรอบต่อไป


ความเงียบเข้าปกคลุม เขานั่งมองเฉย ๆ ส่วน โอชาโกะก็ใชกาชาปอง สถานการณ์ดำเนินไปเช่นนั้น


ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งและความเงียบไร้เสียง โชโตะนึกสงสัย


...เรียกเขามาทําไม


“โทโดโรกิคุงคิดยังไงกับอิชิคุงเหรอ”


จนเป็นโอชาโกะที่เป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบ โชโตะสะดุ้งเฮือก ใบหน้ามีรอยแผลเป็นหันมอง โอชาโกะแบบนิ่งสนิท


แบบว่า ก็ก่อนหน้านี้เธอกับอิชิคุง อืมแบบ นั้นน่ะ เห็นว่าทะเลาะกันด้วย"


“แต่ตอนนี้ก็มาสนิทกัน ก็เลยสงสัยน่ะ”


หญิงสาวพยายามขยายความให้คนที่กำลังท้าหน้า เรียบ


"สามตรงว่าฉัน-ดีใจน่ะ"


ทีสิ คุคุงเริมเป้าหาใครก่อนแล้ว -มีเพื่อนคนอื่น นอกจากฉัน"


มือเปิดไข่กาชาปองขณะที่กำลังพูด ดวงตาสี เปลือกไม้สะท้อนแววแห่งความยินดีออกมาจากใจจริง


"ไม่ใช่ว่ามิโดริยะมีเพื่อนเยอะหรอกเหรอ"


“ก็ทั้งนิสัยดี ใจดี ใคร ๆ ก็น่าจะชอบ"


โชโตะถามด้วยความสงสัย มองโมเดลตัวละครที่ ถูกหยิบออกมาจากลูกกลมในมือโอชาโกะ เด็กสาวถอน หายใจอีกรอบ เลยได้รู้ว่านั่นก็คงไม่ใช่ลายที่ตามหาอยู่ ก่อนเจ้าตัวจะหันมาตอบคำถามของเยา


นั่นก็ถูกนะ แต่ความจริง งค่อนข้าง... จะว่า ยังไง "


"ปิตตัว อะไรทํานองนั้นน่ะ"


ปิดตัว?


พูดทวนพลางเลิกคิ้ว โอชาโทะพยักหน้า


“อื้อ เพราะรู้จักกับอิ คุคุงมานานละมั้ง ถึงได้รู้...


“อิชิคุคุงน่ะนะ ไม่ค่อยเข้าหาหรือก้าวเข้าไปสร้าง สัมพันธ์กับใครก่อน แล้วถึงจะรู้จักกันแล้ว ก็จะมีระยะ ห่างบางอย่างที่เข้าไปไม่ได้อยู่ เหมือนเจ้าตัวเขาขีดเส้น เอาไว้ แล้วก็ตั้งใจเว้นระยะ อะไรทำนองนั้นน่ะ"


"คงจะมีเหตุผลบางอย่างนั่นละ แต่เหตุผลอะไร นั่นฉันก็ไม่รู้หรอกนะ"


เพราะงั้นตอนทีอิ คุคุงชวนเธอมากินข้าวกลาง วันด้วยกัน เริ่มสนิทกับเธอ ก็เลยดีใจมาก "


โอชาโกะบอก เด็กสาวแก้มกลมหันหน้ามาทาง ยา ฉีกยมกว้างจนตาปิด


"ฉัน...ฟังจะรู้เลย"


โชโตะตอบกลับเสียงค่อยกับเรื่องราวที่ตนพึ่งได้ ยิน ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าคนที่ดูอ่อนโยน ใจดีและเป็นที่ รักอย่าง 8 จะมีมุมแบบนั้นปิดซ่อนเอาไว้


“อุรารากะรู้จักกับมิโดริยะมานานแล้วเหรอ? *


เด็กหนุ่มผมสองสถามต่อ


"อือ เราเป็นเพื่อนห้องเดียวกันตอนม.ต้นน่ะ”


แล้วก็อยู่ด้วยกันมาตลอด


และโอซาโกะก็ตอบ โชโตะพยักหน้ารับ ก่อนจะ หลบสายตาลง า ดวงตาสองสีเหม่อมองฉลากหน้าตู้กา ชาปอง ครุ่นคิดอะไรในหัวไปเรื่อย


เขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับมิโดริยะ อิชิคุงั้นเหรอ?


จากในสายตาของโชโตะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาแล้ว นั้น จะบอกว่ามิโดริยะ อิชิคุ เป็นตัวตนที่ราวกับดวง อาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิ คงไม่เวอร์เกินไปเสียเท่าไหร่


อบอุ่น อ่อนโยน ใจดี แทบจะเป็นขั้วตรงกันข้าม กับเขา – พายุหิมะในฤดูหนาวไร้ที่สิ้นสุด


โชโตะรู้ และเฝ้ามองมาตลอด


เคยคิดว่าทั้งระยะห่างและนิสัยที่แตกต่าง เยา กับอิชิ คงจะไม่มีทางมาบรรจบ


แต่ใครจะรู้ว่าวันนึง สด ตอบอุ่นจะสาดส่องลง มากลางพายุหิมะ


รู้ตัวอีกที มิโดริยะ อิสึคุเข้ามาวนเวียนในชีวิตของ โทโดโรกิ โซโตะเสียแล้ว


แถมยังมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเขามากกว่าที่


ให้ความรู้สึกเหมือนเจอบ้านตระหง่านยามหลง ทางกลางพายุหิมะ บ้าน ให้ ทั้งความอบอุ่นและสบายใจ


ถ้าถามว่าคิดกับมิโลริยะ อิชิอย่างไร ทั้งหมดที่ ว่ามานั่นก็คงเป็นคำตอบของเขา


“นี่...ถ้าที่ฉันจะพูดมันเพี้ยน ๆ ก็อย่าถือสากันเลย นะ


โอชาโกะบอก นมาขณะที่โชโตะ าลังจมอยู่กับ ความคิด เด็กสาวผมสั้นหันมาด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อน จะเอื้อนเอ่ยประโยคที่โชโตะคาดไม่ถึง


"โทโธโรกิคุงน่ะ จริง ๆ แล้วแอบ ๆ ชอบอิชิคุ คุงเขาอยู่ใช่ไหมล่ะ? *


สิ้นเสียงคำถาม โซโตะก็ตัวแข็งชื่อ เงยหน้าขึ้นไว ตกใจเสียจนหัวแทบโหม่งตู้กาชาปอง


เด็กหนุ่มนิ่งเงียบ ไม่เอ่ยตอบรับอะไรกลับไป ด้วย เขา-ทําตัวไม่ถูก


แอบชอบ...


ช่างเป็นคํ ที่ชวนให้จั๊กจี้หู แต่ในใจกลับไม่ได้ร้อง ปฏิเสธอะไร


และลงไม่ถูกหากจะบอกว่าเขาไม่มีความรู้ ก พิเศษใด ๆ อมิโดริยะ อิชิคเลย


กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่มักจะเรียบนิ่งเสมอ ของโชโตะกระตุก-ก่อนจะถูกย้อมด้วยสีแดงระเรื่อ


เห็นท่าทีแบบนั้น โอชาโกะก็ทำตาวาว


"เอ๊ะ? จ-จริงเหรอ"


จริง ๆ เหรอ ว่าปลื้ม”


“โทโดโรกิคุง !


เด็กสาวถามช้า คาดคั้นคำตอบจากเพื่อนร่วมห้อง ตัวสูง โชโตะพยักหน้าช้า ๆ ทั้งที่ใบหน้ายังขึ้นสีฝาด


คนตัวสูงอีกอัก เลิ่กลั่ก ทำตัวไม่ถูกอย่างที่ไม่เคย เป็นมาก่อน


โอชาโกะลดมือลง อ้าปากค้าง


“ฉันยังไม่มั่นใจเลยนะ! อันนี้แค่เอาเองนะ!”


"พระเจ้า ได้ยังไงกัน จริงเหรอเนี่ย ทำไมล่ะ!"


“พูดอะไรสักอย่างสิ โทโดโรกิคุง!"


เอื้อมมือไปเขย่า พยายามจะทำให้อีกคนพูดอะไร สักอย่างออกมาต่อ โอซาโกะไม่คิดว่าตัวเองจะเดาถูก และเมื่อเป็นแบบนั้น เธอก็ไม่รู้จะรับมือโทโดโรกิ โชโตะ ยามเป็นอายเช่นตอนนี้ยังไง


"ไม่รู้จะเรียกว่าชอบ หรือเปล่า แต่กับมิโดริยะ มันมีความรู้สึกที่พิเศษกว่าคนอื่นทั่วไป.."


“มิโดริยะคล้าย ๆ แมวฉันน่ะ อะ ในแง่ที่ดีนะ ไม่ ใส่ในแง่น่าขนลุก..."


แบบว่า นิสัย ความใจดี เวลาอยู่ด้วยแล้วให้ความ รู้สึกคล้าย ๆ กัน”


“ความรู้สึกเหมือนนั่งหน้าเตาฝังในหน้าหนาวแบบ นั้นน่ะ”


ว่าจบก็ยกมือขึ้นเกาแก้มแรก ๆ หันมองเพื่อน ร่วมห้องสาวด้วยสีหน้ากังวลใจ


...คงดูน่ากลัวสินะ”


โชโตะเอ่ยถามก่อนถอนหายใจ ดวงตาต่างสีสัน ฉายแววซึมเซา โอซาโกะรับส่ายหน้าระรัวปฏิเสธ


“ไม่เลย โทโดโรกิคุง ไม่ใช่แบบนั้นหรอก"


“ฉันแบบว่า พูดไม่ถูกเลยละ ไม่คิดว่าเธอจะมีมุม แบบนี้


...แล้วก็ ไม่คิดว่าจะเดาถูก"


ว่าจบก็หัวเราะแหะ ๆ มองคนตัวสูงที่ตัวแข็งทื่อ และใบหน้ามีรอยแผลเป็นที่ยังเรือสีแดงจาง ๆ


ตายละ น่ารักจริงเชียว


โอชาโกะสอบยิ้มอย่างเอ็นดู


เริ่มอยากเอาใจช่วยขึ้นมาแล้วสิ


ถ้างั้น-"


*จะบอกอะไรให้ละกันนะ ถือเป็นค่าขอบคุณที่มา นั่งใบกาชาปองเป็นเพื่อน


(4)


"ผมพึ่งรู้เลยนะว่าโทโดโรกิคุงกลับทางเดียวกัน"


เสียงนุ่ม งบอกคนที่เดินอยู่บ้างกาย หลังจากแยก ย้ายกับอีดะและโอซาโกะที่เกมเซนเตอร์ ก็ตั้งใจมุ่งหน้า กลับบ้านตามปกติ แต่ไม่ได้คิดว่าเพื่อนร่วมห้องผมสอง คนนี้จะเดินกลับมาทางเดียวกันด้วย


เราก็เจอกันตอนเช้าหลายครั้งอยู่นะ”


โชโตะบอกเสียงเรียบ กล่าวถึงเหตุการณ์


“อะ ตอนเดินมาโรงเรียนสินะ จริงด้วยเนอะ


“ตอนนั้นผมกลัวเธอสุด ๆ ไปเลยนะ เคยแอบคิด ถึงขั้นว่าเธอคือคนสุดท้ายในโลก จะยุ่งด้วย"


*ขนาดนั้นเลยเหรอ? "


“อือ ขนาดนั้นเลยละ”


แต่พอรู้ว่าจริง ๆ เธอห่างไกลจากค้านั้นมากก็—


ทําเอารู้สักอายนิด ๆ อยู่เหมือนกัน


อิชิ หัวเราะเสียงแห้งพลางเกาแก้มเขิน ๆ โดยมี ดวงตาต่างสีสันของโชโตะลอบมองอีกคนจากด้านข้าง เด็กหนุ่มตัวสูงพยักหน้าหงิกหงักตอบรับการสนทนา แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมเขาทั้งคู่ อิริต ได้เอ่ยอะไร ออกมาต่อ โชโตะก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรเช่นกัน


กลงภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบของเด็กหนุ่มผมสอง ส ก้อนเนื้อในอกยางเต้นตึกตัก


มือหนึ่งขึ้นทาบหน้าอกของตัวเอง รับรู้ได้ถึงบาง อย่างที่เต้นระรัวเร็วอยู่ด้านใน


ตั้งแต่โดนอุรารากะทักแบบนั้น- ข้างในนี้มันก็ไม่ ปกติอีกเลย


โชโตะลดมือลง ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เจอ บางอย่างขนาดเล็กพอจะทำได้ด้วยฝ่ามือใส่เอาไว้ - เหมือนอยากจะตรวจสอบให้แน่ใจก่อน แล้วเด็กหนุ่ม ตัวสูงก็เลื่อนสายตาช่าเลืองมองคนข้างกาย


อยากจะชวนคุย ต้องชวนคุย


รู้สึกแบบนั่น


แต่เขาไม่ใช่คนคุยเก่ง แถมชวนคุยก็ไม่เป็น แล้ว ตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงดี


จนสุดท้ายก็พลาดโอกาสจะเป็นฝ่ายเริ่มเปิดบท สนทนาไป


“วันนี้สนุกหรือเปล่า โทโดโรกิคุง”


อิชิ เอ่ยถามขึ้นมา เสียงนุ่มยังฟังดูใจ เฉกเช่น เดิม คําถามที่ไม่รู้ที่มาที่ไป และชวนให้รู้สึกจั๊กจี้ใจขึ้น มานิดหน่อย แต่ขณะเดียวกันก็ทําให้รู้ลืกสบายใจและ อบอุ่น


“อือ”


"สนุกมาก


โชโตะตอบ รอยยิ้มระบายบนใบหน้ามีรอยแผล อิชิ เห็นแบบนั้นก็อมยิ้มออกมาตาม


"ดีใจจังที่สนุก


บอกเสียงค่อยอย่างยิน มรกตคู่สวยสะท้อนแวว แสงยามเย็น ตะวันเริ่มคล้อย สีส้มของยามเย็นของ อาทิตย์อัสดงก็ถูกทาทับไปทั้งบริเวณ


“จริงสิ เดี่ยวจะลืม—


สินค้า เค้กหนุ่มผมฟู ล้วงหายองดังกุกกักใน กระเป๋านักเรียน


“ผมเห็นเธอมองมันตอนอยู่ที่เกมเซนเตอร์


คิดว่าอาจจะอยากได้ ก็เลย...ไปตีบมาให้น่ะ"


แล้วมือก็ยื่นพวงกุญแจรูปแมวสีดำล้วนมาให้ โชโตะมอง-ดวงตาต่างสีสันหลบลงต่ำ สองขาหยุดเดิน ล้วงมือเข้าไปก่าของในกระเป๋ากางเกง แล้วพิมพาเสียง ค่อย


..แบบนี้ แย่ล


อิชิคเลิกคิ้วพร้อมเบิกตา เอียงคอน้อย ๆ อย่างไม่ เข้าใจ


“เอ๊ะ หมายความว่ายังไงกันครับ?"


อันที่จริง ฉันก็ไปยิบมาแล้วน่ะ"


ว่าจบก็หยิบพวงกุญแจรูปแมวแบบเดียวกัน เพียงแต่เป็นลายสี ขึ้นมา


"สั่งใจจะเอามาให้มิโดริยะ"


"อุรารากะบอกว่าใกล้จะถึงวันเกิดมิโดริยะแล้วฉัน ก็เลย


เว้นเสียงไปพร้อมท้าหน้าข่ม ขณะที่มือยังแบพวง กุญแจเหมียวน้อยเอาไว้ อิชิองแมวยาวลายแต้มตัว น้อยห้อยห่วงเหล็กอย่างอึ่ง ๆ ระคนตกใจ


เยาเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าวันเกิลของตนเองก็ใกล้จะ วนมาอีกปีแล้ว แต่ที่ตกใจยิ่งกว่าคือคนตัวสูงตรงหน้า คนนี้จะเอาของขวัญมาให้นี่ละ


ก็เลยจะเอามาให้ผมเหรอ....? "


เจ้าของเรือนผมนุ่มเอ่ยถาม มรกตคู่โตเงยขึ้น มองเพื่อนร่วมห้องผมสองสีที่พยักหน้าหงิก ๆ เป็นเชิง ตอบรับ


“แต่มิโดริยะก็ดันยิงให้ฉันก่อนซะโต้


โชโตะบอกหงอย ๆ พร้อมท่าที่เหมือนแมวคอตก


นั่นท่าเอาอิชิ ท้าตัวไม่ถูก


"อะ เอ๊ะ เป็นงั้นไป


ขอโทษนะ ผมไม่รู้!


เอ่ยค้าขอโทษพร้อมยกมือสองข้างยื่นประกบกัน ใบหน้าตกกระทั้งว้าวุ่นและกังวลใจ อีกอักกับทีทำหู หางตาของโซโตะ จนอีกคนเงยหน้าขึ้นมามองแบบไม่ เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขอโทษ


“ไม่เห็นต้องขอโทษเลยนี่”


แต่ว่า ผมไปขัดความตั้งใจของเธอนี่นา"


อื คอ บาย นิ้วจิ้มพันกันไปมา น้ำเสียงฟังสบาย หูว่าหงอย ๆ


โซโตะมองของในมือตัวเองสลับกับเรียวแก้มกลม ของอีกคน


แล้วเอ่ยเสนอ


"ถ้างั้น...มาแลกกัน"


เลกกัน 2


คนแก้มนุ่มทวนค่าช้า โซโตะพยักหน้า


“อือ...


"ถ้าต่างฝ่ายต่างเอามาให้กันแบบนี้ งั้นก็


...แลกกันได้ไหม? *


ประโยคถามเสียงแผ่ว หลบสายตาไปอีกทาง ใบ หน้าเรียบนิ่งแต่งแต้มสีสันของเลือดฝาด มืออีกข้างยก ขึ้นมาเกาคอแกรก ๆ เหมือนไม่รู้จะทําอย่างไรหรือเอา มือไปไว้ตรงไหน


อ โต้ ได้สิ มาแลกกัน


อิคก้มหน้าหงิก ตอบไปด้วยเสียงตะกุกตะกัก รู้ ลึกได้ถึงไอร้อนผ่าน ๆ บนใบหน้า รู้สึกเป็นอายขึ้นมา ไม่กล้าจะสบกับดวงตาสองสีคู่นั้น


มีอยื่นพวงกุญแมวลาไปให้ ขณะที่อีกคนที่ยืน พวงกุญแจแมวยาวลายนมมาเช่นกัน


โชโตะหยิบของที่อีกคนให้มาแล้วอมยิ้มกับตัวเอง ของขวัญชิ้นแรกที่เคยได้รับจากใครสักคนนอก จากครอบครัว


"ขอบคุณนะ"


“แล้วก็ สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้า


เอ่ยประโยคที่ตั้งใจจะพูดหลังจากนี้ แต่ด้วยสถาน การณ์ที่ผันเปลี่ยน เลยต้องมาขยับมาพูดก่อนวันจริง อิชิ พยักหน้า


ขอบคุณนะคร้บ โทโดโรกิคุง”


“จะเก็บรักษาอย่างดีเลย


เสียงนุ่ม บอก ใบหน้าตกกระหุบยิ้มไว้ไม่อยู่ คํา ยองขวัญวันเกิด ได้รับเอาไว้ ของสําคัญ


จนเสียงมือถือร้องกัน เด็กหนุ่มสองคนสะดุ้ง เอือก “ของผมเองครับ—" อิ คลนลาน ควานหามือถือ ที่ใส่เอาไว้ในกระเป๋า หยิบมันขึ้นมาดูหน้าจอ ก่อนพบ ว่ามันคือเสียงร้องเตือนใกล้พระอาทิตย์ตกดินที่เขาตั้ง เอาไว้


ดวงตาสีมรกตเบิกกว้าง หันขวับมองโชโตะอย่าง ตกใจ


ผ-ผมคงต้องรีบไป อ๊ะ!"


บอกลาอย่างรีบร้อน แต่เพราะรีบเกินไปเลยสะดุด ยาตัวเองจนเกือบล้ม โซโตะยื่นมือออกไปจับ ช่วย ประคองคนตัวเล็กกว่าที่เกือบจะล้มเมื่อครู่


ม ไม่เป็นไร ขอบคุณมากครับ


ผ ผมต้องรีบไปแล้ว ไว้เจอกันนะครับ"


อิชิ กล่าวขอบคุณ เพราะไ มือเรียวของอีกคน ช่วยเอาไว้เลยไม่ต้องล้มหน้าคะมา แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มี เวลาเหลือเฟือพอจะให้ซาบซึ้งอะไรมากมาย เด็กหนุ่ม ผมฟูริบบอกลาไว ๆ สิ้นเสียงก็หันหลังและออกวิ่งสุด


เวลากำลังจะหมดแล้ว


ต้องไปที่ที่ไม่มีใครเห็น –ที่ที่โชโตะจะไม่เห็น


อิชิคุไม่รู้ว่าตัวเองกำลังวิ่งไปที่ไหน รู้แค่ว่านี่เป็น ครั้งทีสองแล้วที่เขาจะกลายเป็นแมวในที่สาธารณะ ซึ่ง จะให้ใครเห็นไม่ได้โดยเด็ดขาด


จนลองยามาหยุดในซอยเปลี่ยว เด็กหนุ่มผมฟู ยืนหอบ หันมองไปด้านหลัง พอคิดว่าคงจะไม่มีใคร เห็นก็ผ่อนลมหายใจ ถอดกระเป๋าวางและทรุดตัวลงนั่ง กับฟัน อยากจะตําหนิตัวเองอีกสักร้อยหรือสักพันครั้ง ที่ดันเผลอไผล เที่ยวสนุกจนลืมเวลา มไปว่าจริง ๆ แล้วตัวเองเป็นอะไร


จนเสี้ยวสุดท้ายดวงอาทิตย์หล่นพ้นขอบฟ้า อิ ปิดเปลือกตาลงเบา ๆ


เลิก


ก็เหมือนกับทุกวัน—เหมือนกับทุกครั้งตั้งแต่ยัง


ทําไมยังไม่ชินเสียทีนะ


มรกตคู่สวยหนีขึ้น พอก้มลงมองก็เห็นอุ้งเท้าของ แมวขนฟูสีตาแทนทีจะเป็นมือของมนุษย์แล้ว


ลอบถอนหายใจ แม้จะคอยพร้าบอกตัวเองว่าควร จะชินได้แล้ว แต่เมื่อว่าผันแปร กลายเป็นแมวไป ภาย ในใจก็มีความรู้สึกเศร้าหลง เอาไว้ทุกครั้ง


วันนี้คงทิ้งกลับบ้านช้า ทิ้งไม่ได้ไปบ้านของโทโด โรกิคุง


อิชิคเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า


แม้ตะวันจะลาลับ แต่ฟ้าก็ยังมีแสงสว่างพร่างอยู่ กลาย ๆ ตัวเลขนาฬิกาบอกเวลาที่จำได้ก็บอกเวลาใกล้ ค่าเต็มที คงเพราะเป็นหน้าร้อนนั่นละ ช่วงเวลาของกลางวันจึงได้ยาวนานกว่าโมงยามของกลางคืน


ทุก วนเวียน เมื่อวันเกิดของเขาและการสอบผ่าน พ้น ปิดเทอมฤดูร้อนก็จะมา ฤดูร้อนดูน่าสนุกเสมอ ทั้งทริปค้างแรมกับเพื่อน ๆ เทศกาลฤดูร้อน ชมดอกไม้ ไฟ กิจกรรมมากมายที่ทําได้เฉพาะในหน้าร้อนเท่านั้


อิ คุไม่เคยได้สัม


เพราะการกลายเป้นแมวมันไม่มีปิดเทอมหรือวัน หยุดทํา ทุกหน้าร้อนเยายลูกตัวอยู่แต่กับบ้าน-แทบ ไม่ได้ออกไปไ


พร่าบอกกับตัวเองว่าต้องชิ้นได้เสีย


แต่อย่างน้อย ก็อยากจะไปดูดอกไม้ไฟด้วยตา ของตัวเองสักครั้






ค่าวันนั้น อิชิคุฝัน


นานมาแล้วที่ไม่ได้ฝันแบบนี้


พระอาทิตย์ลาลับเส้นขอบฟ้า เมืองที่ไร้แสงไฟ เสียงร้องเล็ก ๆ อย่างหวาดกลัวของลูกแมวที่ติดอยู่บน ต้นไม้ อิคุมันได้ดี ทุกอย่างยังชัดเจนเหมือนเกิดขึ้น เมื่อวาน


ตัวเขาในวัยอนุบาล ติดอยู่บนต้นไม้จากการ กลั่นแกล้งของเพื่อนร่วมชั้น


วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของการเรียน


เยาร้องระงม กรีดร้องสุดเสียง ร่างกายส้นเทิ้มไป ทั้งตัว หวังเพียงให้ใครสักคนมาช่วย


และในปีที่เขายังอายุไม่ครบ 7 ขวบดี อิ คุก็ได้ เรียนรู้ ว่ามนุษย์เรานั้นเกลียดความแตกต่างขนาดไหน


-สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ยังเอ่อนอง มือของ เด็กหนุ่มค่อย ๆ ยกขึ้นเช็ต สัมผัสของเรียวนิ้วบนใบ หน้าทำให้ได้รู้ ดูเหมือนเข็มนาฬิกาจะวนเวียนผันผ่าน เลข 12 ไปแล้ว


เด็กหนุ่มผมฟูยันตัวขึ้นนั่งบนเตียงนุ่ม กวาดสาย ตามองห้องของตัวเองชะงักสายตาที่กระเป๋าสีเหลือง คิดที่วางอยู่ข้าง ๆ โต๊ะ คาดว่าคงเป็นคุณตาที่เอามาวาง ไว้ให้


อิ คุลิวงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบพวง กุญแมวขาวลายแต้มออกมา พินิจพิจารณาของชิ้นเล็ก อย่างชอบใจ ของขวัญวันเกิดที่ได้รับมาไวไปหน่อย


ใบหน้าตกกระแต่งแต้มรอยยิ้ม


สัญญาว่าจะเก็บรักษาและใช้งานมัวอย่างดี ราวว่า


เป็นสมบัติชั้นสําคัญ


จนเสียงเคาะประตู ง ลก ๆ ไม่ใช่ใครอื่นนอก จากคุณตาโทชิโนริ เจ้าของห้องส่งเสียงตอบรับกลับไป มือเช็ดคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลือ ไม่อยากให้คุณตา เป็นห่วง


*หนุ่มน้อยอืชิด ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม"


ชายชราตัวสูงท่าทางใจดีเอ่ยถามหลังเปิดประตู ห้อง อิชิคพยักหน้า พอเห็นแบบนั้น โทโซโนริก็ก้าวเท้า เข้ามาด้านใน


หย่อนตัวลงนั่งบนเตียง ข้าง ๆ กันกับหลานชาย อื ค ง มห า ง มรกตคู่สวยหม่นแสงและเจือ ความรู้สึกผิด เค้าเอาไว้ว่าตัวเองคงจะโดนดุเรื่องวันนี้


“มีอะไรอยากจะเล่าให้ตาฟังใหม


แต่คําถาม า ไม่ถึงก็ถูกเอ่ยขึ้น เด็กหนุ่มหันมอง คนข้างกายด้วยแววตาฉงน ชายชราผมสีทองแชมด้วย สีดอกเลาระบายยิ้มให้


“หมายความว่ายังไง— คุณตาไม่ได้จะมา ผม หรอกเหรอครับ"


เด็กหนุ่มร้องถาม มรกตคู่สวยฉายแววไม่เข้าใจ


"ไม่หรอก"


ก็แค่หลัง ๆ มานี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย


โทชิโน บอกตอบ ดวงตาสีท้องฟ้าฤดูร้อนสอบ สังเกตกิริยาของหลานชาย


ทั้งที่ผมแอบออกไปด้านนอกทุกวันตอนเป็น แมว แล้ววันนี้ก็กลับบ้านไม่ทันอย่างนั้นเหรอครับ”


เค็กหนุ่มกล่าวเสียง ม


หนุ่มน้อยอิ F


หลานเป็นเด็กดี ตารู้ว่าหลานมีเหตุผล และก็รู้ตัว ว่าทําอะไรอยู่”


แต่ต้องระวังตัวด้วยนะ เข้าใจใหม


ว่าเช่นนั่นขณะจ้องใบหน้าของ คนอายุน้อย กว่าพยักหน้ารับ


“ว่าไง มีเรื่องอะไรกังวลใจอยู่"


แล้วก็เอ่ยถามต่อ โทชิโนริพอจะดูออกว่าตอนนี้ ภายในหัวของเด็กหนุ่มข้างกายคะมีเรืองราวมากมายที่ กําลังกังวล


“ผมคิดว่าเชนโชคุง อาจจะรู้ความลับของผมแล้ว ครับ


"อะไรทำให้คิดแบบนั้น”


ผม-ผมก็ไม่รู้ แต่ว่ามันรู้สึกแบบนั้น


อิ คลายหน้า บอกปฏิเสธ เขาไม่รู้ว่าทําไมตัวเอง ถึงคิดเช่นนั้น แต่สัญญา ญาณบางอย่างมันกำลังคู่ ร้องบอก


“ถ้าเกิดเขารู้ขึ้นมาจริง ๆ แล้วผม...ผม..."


เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงลั่น สัมผัสได้ถึงความกังวลที่ เอ่อล้นอยู่จนเต็มอก


"ไม่เป็นไร หนุ่มน้อย"


"เดี๋ยวตาจะลองหาทางคุยดูด้วยว่าเขารู้จริง ๆ ใหม่


โทชิโนริบอกพลางเอื้อมจับมือของหลานชาย หวัง จะให้เด็กหนุ่มข้างกายคลายกังวล


อิ คุพยักหน้า


ขอบคุณนะครับ”


ก่อนจะหลบสายตา มรกตคู่สวยหม่น สิง


ผมสร้างปัญหาอีกแล้วใช่ไหม"


“ทำไมถึงมีแต่ผมที่เป็นแบบนี้ล่ะครับ”


“ทำไมผมถึงไม่เหมือนคนอื่น”


อิซึคุร้องถาม น้ำเสียงปวดร้าว มือเข้ากันแน่น


“เวลาที่มองเพื่อน ๆ ถึงจะอยู่ข้าง ๆ กัน แต่บาง ครั้งก็รู้สึกเหมือน ผมกับพวกเขาอยู่กันคนละโลก


“เพราะผมเป็นแบบนี้ เพราะผมไม่เหมือนพวก เอา เพราะผมแตกต่างจากพวกเขา"


บางทีผมก็คิดว่าตัวเองไม่ใช่คน ผมมันเป็นตัว ประหลาดจริง ๆ 7


พูดบอกอย่างขมขื่น เด็กหนุ่มวัยใกล้ 18 ปลด ปล่อย ระบายความรู้อีกทีอัดอั้นในใจมาตลอด


โทชิโนริมองหลานชายตัวเองอยู่ตลอดเวลา


ยกมือไปจับใบหน้าของหลานชายอย่างอ่อนโยน แล้วบอก


"นิ หันมานี ฟังตานะ"


“หลานไม่ได้ประหลาด”


มรกตคู่สวยของเด็กหนุ่มค่อย ๆ หันมามองเขา พร้อมแววใสสะท้อนแสง เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา


“อย่าได้โทษตัวเองที่แตกต่าง


*ความแตกต่างไม่ใช่เรื่องแย่ มันคือเรื่องปกติ – คนเราก็แตกต่างกันไปทุกคน


"ทุกความแตกต่างล้วนหล่อหลอมให้เราเป็นเรา”


ชายชราใจดีพูด พยายามจะให้กำลังใจอีซีคุ แต่ทุกคนไม่ชอบคนที่แตกต่างที่นา"


“ผมก็ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้”


เด็กหนุ่มกอดเข่า


ตารู้ดีว่าหลานเจ็บปวดมามา จากความแตก ต่าง และตาจะไม่โทษทีหลานรู้สึกแบบนั้น หลานไม่ได้ ทําผิดอะไร"


“สักวันนึงถ้าหลานไม่ได้เป็นเหมือนในตอนนี้แล้ว นั่นก็ไม่ได้แย่ แต่ตัวหลานเองในตอนนี้ก็ไม่ได้แย่เช่น กัน


“สาอยากให้หลานเห็นตัวเองแบบที่ตาเห็นว่า หลานเป็นคนที่สุดยอดแค่ไหน อย่ามองตัวเองด้านสบ ขนาดนั้นเลยนะ"


หลานห่างไกลจากค้าค้านั้นมาก รู้ไหม”


ไม่เป็นไร


"ไม่ต้องรับ


ค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับมัน แต่อย่าเกลียดตัวเอง ไปเลยนะ"


จับกรอบหน้าตกกระอย่างรักใคร่ นิ้วลูบไล้เช็ดน้ำ กาที่ใกล้จะใหลของเด็กหนุ่ม อิชิกุยบเข้ามือใหญ่หยาบ ของชายสูงวัย


“ขอบคุณครับ


กล่าวค้าขอบคุณจากใจจริง โทชิโนริยิ้มให้


“วันนี้ก็พักผ่อนเถอะ”


"ตาเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว ไปอาบน้ำสี


อิชิคพยักหน้ารับ ลุกขึ้นจากเตียงนุ่ม หมายมั่นจะ ไปอาบนํ้า -คุณตาของเขา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ใจดีและน่ารัก เสมอ เขาโชคดีมากจริง ๆ ที่มีคุณค่าอยู่ด้วย


แล้วเสียงเรียกก็ดังขึ้นอีกรอบ เด็กหนุ่มผมฟูหัน


คาท


หนุ่มน้อย ชิด


"ครับ?"


"ไปโรงเรียน....สนุกหรือเปล่า? "


คำถามที่ไม่คาดคิดถูกส่ง ดวงตาสีมรกตเบิกขึ้น นิดหน่อย พร้อมความเงียบจากเด็กหนุ่ม ราวกำลัง ครุ่นคิด


ใบหน้าตกกระ กยิ้มกว้าง ร้องตอบอย่างร่าเริง


“อือ สนุกมากเลยละ”


โทชิโนริมองอิชิค


ดวงตาสีท้องฟ้าฤดูร้อนวาวขึ้นด้วยหยาดน้ำสีไส


เมื่อครั้ง หลานชายวัยประถมถูกพามาฝาก เขา ยังจํามันได้แม่นยำา


“คุณตา- ผมไม่เอาแล้ว ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ เอาแก้ว"


"ทุกคนที่นั่นเกลียดผม โรงเรียนเกลียดพบ คุณ ครู เพื่อน ๆ ทุกคนเลย ผม ผมไม่เอาอีกแล้ว"


เด็กหนุ่มตัวเล็กที่ร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล นั่งร้องไห้ปานจะขาดใจ แขนเล็ก ๆ ทอดเขาเอาไว้แน่น เสียงสั่นเครือของเด็กน้อยวัย 7 ปีคนนั้นกรีดหัวใจของ เขาเพียงแค่ได้ยิน โทชิโนริไม่ลังเลเลยที่จะช่วยรับเด็ก คนนี้มาดูแล


ก่นด่าสังคมรอบตัวของเล็กคนนี้อยู่ภายในใจ หนุ่มน้อยตัวแค่นั้นจะต้องผ่านอะไรมามากมายขนาด ไหน ถึงได้กรีดร้องและมีสภาพเช่นนั้น เขาไม่กล้า จินตนาการด้วยช้า


แต่มันต่างไปแล้ว


มรกตไร้แสงสะท้อนเมื่อ 11 ปีก่อนกับดวงตาสี เขียวใส ทอแสงเปล่งประกายในวันนี้


"โอ้วละ"


ตอบเพียงสั้น ๆ ขณะที่ใบหน้าผอมตอบของชาย รายกยิ้มกว้างจนตาปิด


อิชิคยิ้มกลับ


ความรู้สึกอืดอัดทีคับแน่นอยู่ในใจมาตลอดเริ่ม เบาบาง แม้ความคิดด้านลบพวกนั้นจะไม่ได้หายไปใน วันนี้วันพรุ่ง แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็สบายใจขึ้นมา


เด็กหนุ่มภาวนายอ อยากให้ช่วงเวลาที่มีความสุข เช่น วนเวียนอยู่ตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สารรักที่ 7

     ทาเคชินั่งมองพระจันทร์ยามเที่ยงคืนจากริมหน้าต่าง      มือหนึ่งยกขึ้นมาเท้าคาง หยาดน้ำค้างคู่สวยสงบนิ่ง เหมือนกำลังจมลึกในความคิด      เ...