วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2566

สารรักที่ 3

    “ฉันมาแล้วเจ้าเหมียว"


    เอ่ยทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้อง มือข้างหนึ่งถือชามอาหารมาด้วย ดวงตาเขียวขจีใสกวาดหาเจ้าเหมียวตัวเล็ก ก่อนจะพบแมวขนดำนั่งขดเป็นก้อนอยู่ตรงมุมห้อง


    "เธอไม่กินนมฉันเลยขอให้พี่ฟุยุมิหาอะไรให้"


    “เจ้านี่ กินได้หรือเปล่า? "


    ว่าก็วางชามเนื้อปลาต้มสุกลงตรงหน้าเจ้าเหมียว ฮารุโกะย่อตัวลงนั่ง รอเจ้าแมวน้อยมากินอาหารที่นำมาด้วย ส่วนเจ้าแมวตัวน้อยที่ว่าน่ะ


    ทาเคชินั่งเหม่อ จ้องกำแพงมาสักพักได้แล้ว


    ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยโดนใครจับอาบนํ้าในร่างแมวมาก่อน...


    อ้ากกก อับอายจนอยากเอาหน้ามุดดิน! ศักดิ์ศรีของผม ป้นปี้หมดแล้ว!


    ฮื่ออ ที่นี่ผมจะเป็นสามีใครได้ ความเป็นชายผมโดนรับรู้ไปหมดแล้ว


    “เจ้าเหมียว เป็นอะไรไป"


    เจ้าของเรือนน้ำตาลเอ่ยอย่างงุนงงขณะจ้องเจ้าเหมียวขนดำที่ตอนนี้สะบัดบึงไม่แม้แต่จะเหลียวชายตามามองเธอ


    “นี่ เจ้าเหมียว"


    เด็กสาวยังเรียกต่อ


    “เจ้าเหมียว...”


    “หรือว่า...เธอโกรธฉันเหรอ? "


    แล้วก็เอ่ยถาม


    “ฉันจับเธออาบนํ้าแล้วก็ไม่ให้ออกไปด้านนอก"


    ลิ้นเสียงของเด็กสาว ทาเคชิก็หันกลับไปมองคนตัวเล็กพร้อมส่งสายตาคาดโทษไปให้ เด็กหนุ่มในร่างแมวขนดำทำตางอนใส่คนที่จับเขาอาบน้ำเมื่อครู่นี้ ส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ แล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น


    "โกรธจริง ๆ สินะ"


    อีกคนพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังจนทาเคชิรู้สึกขำขึ้นมานิด ๆ แต่แมวตัวน้อยก็ยังมิวายปั้นหน้างอใส่เด็กสาว แน่สิ ใครให้เธอจับผมอาบนํ้ากันละ!


    “เจ้าเหมียว...”


    เอื้อมมือมาเหมือนจะอุ้ม เจ้าก้อนขู่แฟ่พร้อมถอยกรูดชิดกําแพง


    ไม่ให้จับ! ไม่ต้องมายุ่ง


    ทาเคชิในร่างเจ้าเหมียวส่งเสียงขู่พร้อมพองขน ใช่ ตอนนี้เขากำลังโกรธ! ถึงคุณมาซากิจะไม่รู้ก็เถอะว่าเป็นผม ผมเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ก็จริง แต่ผมก็เป็นคนนะ! เป็นผู้ชายด้วย! ผมงอน! ผมโกรธ!


    “..ฉันขอโทษ”


    เสียงเด็กสาวดังขึ้นหงอย ๆ หน้าของฮารุโกะสลดลง


    พอเห็นอีกคนดูเศร้าแบบนั้นทาเคชิก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา


    “แต่ว่า..เธอตัวเลอะนี่นา ก็ต้องอาบนํ้าสิ"


    “แล้วด้านนอกก็ฝนตก ฉันปล่อยเธอออกไปตากฝนด้านนอกไม่ได้หรอกนะ"


    คนตัวเล็กบอกทั้งที่ยังทำหน้าหงอย ทีท่าของเจ้าเหมียวที่ขู่ฟ่อแฟ่ดูอ่อนลง หยาดน้ำค้างคู่สวยเงยขึ้นสบกับดวงตาเขียวขจีใสที่มองมา ความโกรธในใจค่อย ๆ จางหายไปทีละนิดทีละหน่อยจนหมด จะเหลือก็เพียงความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ที่ไปโกรธความหวังดีของฮารุโกะที่มีให้ตน


    เมี้ยว-


    ส่งเสียงร้องเบา ๆ ตอบรับคนตรงหน้า พลางเอาหัวเกยมือของอีกคนขึ้นมา


    เด็กสาวที่เห็นว่าเจ้าแมวน้อยดูอารมณ์ดีขึ้นแล้วก็เผยรอยยิ้มออกมาจาง ๆ


    “หายโกรธแล้วเหรอ? "


    “ขอบคุณนะ”


    บอกพร้อมลูบหัวลูกแมวตัวน้อย ก้อนขนดำนั่งอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้อีกคนลูบหัว


    “อะ จริงสิ ฉันให้พี่ฟุยุมิทำอะไรให้เธอกิน"


    “เจ้านี่..เธอกินนี่ได้หรือเปล่า?"


    เลื่อนชามอาหารเข้าไปหาเจ้าแมว ทาเคชิก้มมองเนื้อปลาบดชิ้นเล็กๆ กับผักต้มสุกสลับกับใบหน้าเล็กของฮารุโกะ


    เขากลายร่างเป็นแมวมาเกินครึ่งชีวิต แต่ก็ยังไม่เคยกินอาหารในร่างนี้มาก่อน


    อันที่จริงไม่อยากจะกินเท่าไหร่ แต่ก็ไม่อยากปฏิเสธนํ้าใจที่อีกคนอุตส่าห์หยิบยืนมาให้


    เอาเถอะ มันก็ดูเป็นอะไรที่กินได้นะ


    ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ใช่อาหารเม็ดน่ะ


    นึกบอกตัวเอง เจ้าเหมียวก้มลงลิ้มรสอาหารที่อีกคนเอามาให้ ส่วนฮารุโกะระบายยิ้มออกมาอย่างยินดี


    ทาเคชิเงยหน้าขึ้นมองเด็กสาว ก่อนมือของเด็กสาวจะยื่นมาลูบหัวเขาอีกครั้ง


    "กินเยอะๆ นะ”


    เสียงใสแฝงความตื่นเต้นและดีใจดัง ทาเคชิแอบมุ่ยหน้ากับเขินๆ ไปพร้อมกัน โดนลูบหัวอีกแล้ว


    แต่ถึงแบบนั้น ในใจกลับรู้สึกยินดีอย่างมาก


    ฮารุโกะนั่งมองเจ้าขนดำด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ คนตัวเล็กลุกไปเอาของที่ตัวเองหยิบติดมือกลับบ้านมาด้วย กระเป๋าสะพายสีข้างสีน้ำตาล


    กระเป๋าอันมี คุโระ ทาเคชิ เป็นเจ้าของ


    “กระเป๋าของคุโระคุง..."


    “ทําไมถึงทิ้งกระเป๋ากับรองเท้าไว้แบบนี้นะ"


    ว่าจบก็วางกระเป๋าลงกับพื้น ก่อนถือวิสาสะเปิดมันออก หญิงสาวส่งเสียงอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อ เห็นว่าของด้านในเปียกนํ้าไปหมด


    เปียกไปหมดเลยแฮะ


    นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถือวิสาสะหยิบของในกระเป๋าของเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ออกมา ทั้งสมุดโน้ต หนังสือ เรียน เครื่องเขียนต่าง ๆ ทาเคชิเงยหน้าขึ้นมาจากชามข้าวแมว มองคนตัวเล็กพลางกะพริบตาปริบๆ


    กระเป๋าคงจะเปียกตอนที่วิ่งฝ่าฝนมาสินะ


    ไม่ได้ติดใจอะไรที่หยิบของออกมาผึ่งให้หรอก จะปล่อยให้ของอยู่เปียก ๆ มันก็คงไม่ดี


    แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ธุระของฮารุโกะนี่นา ปล่อยมันไว้เฉยๆ ก็ได้


    ขณะที่ทาเคชิกำลังครุ่นคิด ฮารุโกะก็บรรจงแผ่สารพัดสิ่งอย่างที่อยู่ในกระเป๋า


    "หรือจะว่าเกิดเรื่องอะไรกับคุโระคุงกันนะ"


    พึมพำขณะที่มือก็วางผึ่งของเปียก ๆ ในกระเป๋าไปเรื่อย ๆ เด็กสาวมุ่นคิ้วเมื่อเห็นว่าสมุดโน้ตนั้นเปียกจนหมึกปากกาจางไปกับนํ้าหมดแล้ว


    โดยปกติแล้วคุโระคุงก็ดูไม่ใช่คนที่จะวางของตัวเองทิ้งไว้ไม่เป็นทีแบบนี้ ยังไม่นับรวมยังนิสัยของคนผมดำที่ชอบไปยุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่องจนบางครั้งก็เจ็บตัวกลับมา— อย่างเช่นทีช่วยลูกแมวที่ติดบนต้นไม้นั่นไง


    ...แต่มันก็ไม่ใช่นิสัยที่แย่อะไรหรอกนะ


    จะว่าไปแล้ว


    รองเท้าเองก็วางทิ้งไว้ข้างนึ่งเหมือนรองเท้าหลุดเลยนะ


    ดวงตาเขียวขจีใสนิ่งไปราวกับกำลังครุ่นคิด พอนึกได้แบบนั้นก็เกิดเป็นห่วงขึ้นมา รองเท้าถูกวางทิ้งเอาไว้แบบนั้น มันไม่ปกติเลย


    ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ


    ความคิดปนเปกับความเป็นห่วง หันไปมองลูกแมวตัวเล็กที่กำลังนั่งมองเธอตาแป๋ว


    "เจ้าเหมียว ...เธอได้เจอคุโระคุงรึเปล่า"


    ทาเคชิในร่างเจ้าเหมียวขนดำสะดุ้งโหยงขึ้นมา ตอนได้ยินชื่อตัวเอง เพราะเป็นแบบนี้เลยไม่สามารถตอบอีกฝ่ายได้ เลยทําได้แค่ส่งเสียงเหมียวกลับไปแห้ง ๆ


    “คนที่ผมดำ ตาสีฟ้าเหมือนน้ำค้าง ตัวสูงพอประมาณน่ะ"


    ว่าพร้อมทําท่าประกอบ มือเรียวสองข้างยุกยิกไปมาบนหัวหวังจะให้เห็นภาพผมดำเรียบๆ ที่ว่า ทาเคชิเอียงคอมองเด็กสาว


    คุณมาซากิ— ทำอะไรน่ะ


    พอเห็นท่าทีแบบนั้นของเจ้าเหมียว ฮารุโกะก็ค่อย ๆ ลดมือลงแล้วอุ้มก้อนขนสีเข้มขึ้นมาแทน


    “ ขอโทษที ฉันนี่พิลึกใหญ่"


    “ทำอย่างกับเธอจะตอบฉันได้"


    ทาเคชิพริบตาปริบ อีกฝ่ายว่ามาแบบนั้นพลางวางเขาลงบนฟูกนอนญี่ปุ่นปูกับพื้น เด็กสาวตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เจ้าเหมียว ลูบหัวเจ้าตัวเล็กไปมาอย่างเบามือ ทาเคชิตัวแข็งทื่อ รู้สึกเกร็งด้วยไม่ชินกับสัมผัสอ่อนโยนของมือที่ลูบไปมาอยู่บนหัว


    เพราะตอนเป็นแมวแทบไม่เคยเจอใครนอกจาก คนในครอบครัว


    ก็เลย- ไม่ค่อยโดนลูบหัวแบบนี้


    “ลองขอเบอร์จากเคียวสุเกะแล้วโทรไปดีไหมนะ"


    “อะ แต่มือถือก็อยู่ในกระเป๋านี่นา"


    “บางทีอาจจะแค่ไปชักที่เฉย ๆ งั้นถ้ากลับมาจะตกใจที่กระเป๋าตัวเองหายแหง"


    “ยังไม่ได้ขอโทษเรื่องตอนนั้นด้วยแฮะ"


    พิมพัมเบา ๆ กับตัวเองพลางเหม่อมองเพดาน มือยังลูบหัวเจ้าแมวไม่หยุด ทาเคชิเลิกคิ้วขึ้นสูง พยายามจะเงี่ยหูฟังว่าอีกคนพูดอะไร แต่ก็เบาเสียจนไม่ได้ยิน


    เจ้าเหมียวน้อยมองใบหน้าเล็กเป็นของเด็กสาวก่อนเบนสายตามองไปทางประตูที่ปิดไว้ เสียงหยาดฝนที่กระทบกับพื้นยังคงดังต่อ เนื่องบ่งบอกว่าอีกพักใหญ่กว่าฝนจะหยุดตก


    ยังไงก็เถอะต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่


    "ฝนยังไม่หยุด ยังออกไปไม่ได้หรอกนะ”


    คนผมน้ำตาลว่า นอนเท้าคางมองเหมียวน้อย พร้อมรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า มือลูบหัวเจ้าตัวเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะนิ่งไปราวกับนึกอะไรบางอย่างออก


    “จริงสิ เธอมีชื่อหรือเปล่า? "


    ฮารุโกะเอ่ยถาม ทาเคชินั่งตาแป๋วมองอีกคนอย่างฉงน


    ชื่อ— ก็ต้องมีอยู่แล้วละ ถ้าในร่างคนน่ะนะ


    “อืม ถ้าเธอมีเจ้าของคงจะมีชื่อล่ะมั้ง"


    “แต่จะเรียกเจ้าเหมียวต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้มันก็.."


    ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิก่อนอุ้มเจ้าเหมียวขนฟูดำขึ้นมาพินิจ คิ้วสองข้างมุ่นเข้าหากันราวกับเจ้าตัวกําลังครุ่นคิดอย่างหนัก


    "โปโปะเป็นไง?"


    โปโปะ?


    ทวนคําของอีกคนในใจ เสียงร้องเหมียวดังขึ้น เหมือนจะตอบโต้กับเด็กสาว ฮารุโกะมองเจ้าเหมียวตรงหน้าก่อนยิ้มออกมาน้อย ๆ


    “ชอบไหม ถ้าจะเรียกเธอว่าโปโปะ”


    ฮารุโกะถาม เด็กสาวดูคาดหวังหน่อย ๆ ว่าเจ้าเหมียวจะชอบชื่อที่เธอตั้งให้ คนผมดำเหลือบมองใบหน้าของเด็กสาว ดวงตาเขียวขจีใสเป็นประกายและมีชีวิตชีวากว่าที่เขาเคยเห็น รอยยิ้มเล็ก ๆ บนหน้าให้ความรู้สึกเหมือนดีใจที่ได้เล่นกับเพื่อน


    “โปโปะ...ไม่รู้สิ แค่เห็นเธอแล้วรู้สึกชื่อนี้มันเหมาะกับเธอ ฉันคงเห็นเธอคล้ายแป้งโมจิสีดำมั้ง แต่โมจิอร่อยนะ อะ แต่ไม่ได้ หมายความว่าจะกินเธอหรอก”


    “จะบอกว่าเป็นชื่อที่เหมาะน่ะ"


    ว่าแล้วก็ส่งยิ้มให้ ทาเคชินิ่งงัน แมวเหมียวก้มหน้าลง


    ความรู้สึกที่ชอบเธอคนนี้ ยิ่งชอบเธอขึ้นมาอีก ยิ่งได้เห็นมุมต่างๆ ของเธอ ยิ่งรู้สึกสนใจ ยิ่งอยากเข้าหา แต่ทุกครั้งก็ไม่กล้า มาซากิ ฮารุโกะ คุณทำอะไรกับผมกันแน่ ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งที่เจอเธอ จนตอนนี้ชอบแล้วชอบอีก จนไม่รู้จะชอบยังไงแล้ว


    ทั้งมุมไร้เดียงสาปนน่าขัน อย่างเช่นเอาชื่อของโปรดมาตั้งชื่อแมว


    มีมือที่อ่อนโยน มีรอยยิ้มชวนมอง และก็-

    

    มีน้ำเสียงอ่อนละมุน


    เฉกเช่นที่เขาได้ยิน ได้รับ และได้สัมผัสในวันนี้


    หยาดน้ำค้างคู่สวยของเจ้าเหมียว-โปโปะ ดวงตาที่เหมือนกับคุโระ ทาเคชิยามเป็นมนุษย์เงยหน้ามองเด็กสาวภายใต้ใบหน้าเล็กที่เรียบนิ่ง ลึกลงไปในนั้นเหมือนกำลังตื่นเต้นและเฝ้ารอปฏิกิริยาตอบรับอยู่


    ....ทําเอารู้สึกผิดเลยนะเนี่ยถ้าจะปฏิเสธชื่อนี่


    แต่ก็นะ


    ลูกแมวขนสีดำมุดฝ่ามือของเด็กสาวเหมือนจะให้คำตอบ


    ชื่อโปโปะมันก็ไม่ได้แย่อะไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สารรักที่ 7

     ทาเคชินั่งมองพระจันทร์ยามเที่ยงคืนจากริมหน้าต่าง      มือหนึ่งยกขึ้นมาเท้าคาง หยาดน้ำค้างคู่สวยสงบนิ่ง เหมือนกำลังจมลึกในความคิด      เ...