แสงไฟจากตัวเมืองสะท้อนและส่องสว่าง ขับไล่ ความมีดออกจากโมงยามแห่งราตรีกาล สองเท้าหยุด เดินดวงตากลมโตสีเขียวเงยมองประตูที่ดูสูงเมื่ออยู่ใน ร่างนี้
อิชิค จะเรียกให้ถูกตอนนี้คงเป็นโซบะ ค่อย ๆ ชุดร่างเข้าไปทางช่องเล็ก ๆ สำหรับสัตว์, ประตูแมว
จนเข้ามาในอพาร์ทเมนต์ขนาดย่อม ที่ที่เขา อาศัย
มองซ้ายขวา แอบย่องด้วยความเคยชิน ไม่อยาก ให้ผู้เป็นตารู้ว่าตัวเองออกไปด้านนอกมาในยามค่ำมืด หลังเปลี่ยนร่างเช่นนี้
ถึงจริง ๆ คุณตาจะรู้อยู่ก็เถอะ
แต่อิ คุก็ไม่อยากให้คนสูงวัยต้องมาเป็นห่วง
จนเสียงเอี๊ยดดังเมื่อใช้หัวดับประตูห้องนอนที่ถูก เปิดเอาไว้หลวม ๆ เด็กหนุ่มชะงัก เท้า
*หนุ่มน้อยอิชิ ? ยินดีต้อนรับกลับ
หูของเหมียวบนฟูลั่นดุ๊กดิ๊ก เลียงคุณตาดังชัดแม้ จะอยู่ไกล เพราะทิศทางของเสียงและกลิ่นอาหารที่โชย มา อิชิก งเดาเอาว่าชายชราน่าจะอยู่ในครัว
ใช่ คุณตารู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ห้ามหรือต่อว่าอะไร
จนบางทีก็แอบคิดว่าคุณตาตามใจเขาเกินไปหรือ เปล่านะ
เด็กหนุ่มในร่างแมวเหมียวส่งเสียงเมี้ยวตอบรับ กลับไป ก่อนยืดตัวน้อย ๆ หนึ่งที เดินผ่านประตูห้อง ของตนที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ภาพสะท้อนจากกระจกเงาต้าน ข้างกระทบเข้ามาในสายสา
เด็กหนุ่มนิ่งงัน หยุดมองภาพนั้นในกระจก
ลูกแมวตัวเค้ก ฟูาสนิทพันธุ์สกอติชโฟลด์ และดวงตาสีมรกต-ที่เหมือนกับเขายามเป็นมนุษย์
คิดขึ้นมาว่าน่ารักดี
อุ้งน้อย ๆ แปะเข้ากับกระจกสะท้อน เขาเคยโกรธ เกลียดที่ตัวเองต้องเป็นเช่นนี้ไม่อยากแม้กระทั่งจะมอง รูปลักษณ์ตัวเองยามไม่ใช่มนุษย์
แปลกดี แต่ตอนนี้ เริ่มไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว
แอบยิ้มหน่อย ๆ เมื่อนึกถึงสาเหตุของความ เปลี่ยนแปลงนั่น
เรือนผมสีต่าง ดวงตาสีเทาและฟ้าที่คอยมอง อย่างอ่อนโยน และสัมผัสรักใคร่จากมือคู่นั้น
คงเพราะโชโตะรักเจ้าเหมียวตัวนี้เอามาก ๆ เขาก็ เลย รู้รักรักตัวเองในกระจกตอนนี้มากขึ้นตามด้วย ละมั่ง?
มรกตคู่ วยป่าเลืองมองของที่วางอยู่บนโต๊ะ— พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญของโชโตะ
เขาเลยอยากจะตอบแทนอะไรคนคนนั้นเสีย หน่อย
(2)
พรุ่งนี้เป็นวันสําคัญ
แต่โชโตะกลับข่มตาหลับไม่ได้เลย
เด็กหนุ่มตัวสูงผลิกตัวยุกยิกอยู่บนฟุตง, กลิ้งไป มา, เหลือบมองนาฬิกาบอกเวลา หน้าจอมือถือ พอ เห็นว่าเวลาล่วงเลยข้ามวันมาแล้วก็ถอนหายใจเฮือก ใหญ่
พรุ่งนี้มีแข่งคิวโต เป็นการแบ่งใหญ่และสำคัญ
ราก
3/39
เพราะงั้นเลยต้องรีบนอน รีบหลับ
แสงจากหน้าจอมือถือดับลงพร้อมดวงตาสีฟ้าและ เทาของโชโตะที่ค่อย ๆ ปิด -พยายามนอน แม้ในหัวจะ มีแต่เรื่องนั่นนี้เต็มไปหมด
อย่างเช่นพรุ่งนี้ จะทําได้ดีไหมหรืออะไรอย่าง ถ้า ไม่ได้เข้ารอบขึ้นมาจะทำยังไงต่อ แห่งละ ถ้าเกิดตก รอบ เจ้าพ่อนั่นคงจะไม่ให้เขาทำอะไรแบบนี้ต่อแล้วละ
จนเสียงแจ้งเตือนมือถือดังขึ้น ดึงเรียกเขาให้หาย ฟุ้งซ่าน
มือเรียวคว้าหยิบมือถือ กดเปิดหน้าจอ ก่อนดวง เราสองสีจะเบิกกว้าง พร้อมร่างกายที่ลุกขึ้นนั่งไว ๆ
ยันตัวลุกขึ้นพรวด คว้าเสื้อคลุมมาใส่ พร้อมตรง นิ่งหมายจะออกไปนอกบ้าน
มือหยิบรองเท้า ทิ้งบ้านที่มีสนิทเอาไว้ด้านหลัง สองยารีบเร่งด้วยกลัวว่าอีกคนจะรอนาน
+...มิโดริยะ"
ส่งเสียงเรียกเพื่อนผมฟูที่ยืนรออยู่ข้าง ๆ คําแพง บ้าน อีกคนสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะหันมองมา
"โทโดโรกิคุง!"
"ย-ยังไม่หลับหรอกเหรอ อ๊ะ หรือว่าผมปลุกเธอ"
อิชิคร้องถามอย่างกังวล เพราะนี่เองก็ดึกมาก แล้ว กจนเลยข้ามมาวันใหม่เลยนั่นละ
โชโตะส่ายหน้า
"เปล่า จริง ๆ ก็นอนไม่หลับอยู่แล้วน่ะ"
ปฏิเสธและอธิบายเพิ่ม อิชิ พยักหน้าหงิกหงัก
"นี่เอง ขอโทษที่เรียกออกมากลางดึกแบบนี้นะ”
“อ...อือ ไม่เป็นไร"
ท่ามกลางความมืดมิดของกลางคืน แสงไฟข้าง ทางส่องสว่าง เด็กหนุ่มสองคนยืนอยู่ตรงนั้น—นิ่งเงียบ ไม่พูดจา เพียงแค่มองหน้ากัน
แล้วก็หลบตาหนี
เป็นจังหวะที่ชวนให้รู้สึกประหม่าและอืดอัล หน่อย
“คือว่าที่เรียกออกมา...
แล้วก็เป็นอิชิคที่เริ่มพูดขึ้นมาก่อนหลังจากเขิน อายอยู่เสียนาน
“อยากจะให้ไอ้นี่น่ะ”
สิ้นเสียงก็หยิบถุงเล็กที่ทําจากผ้าสีแดงออกมาจาก กระเป๋ากางเกง - เครื่องรางทามือ เขาหาเจ้านี่ด้วยตัว เอง แม้ด้ายเย็บจะไม่ได้เรียบร้อยมากมายนักแต่ก็ยัง พอจะมองออกว่าเป็นเครื่องราง
"พึ่งทำเสร็จไม่นานน่ะ แต่กลัวจะให้ไม่ทัน ก็เลย มาตอนนี้ ตั้งใจว่าถ้าเธอหลับไปแล้วก็จะใส่ตู้จดหมาย แล้วทิ้งย้อความไว้”
“อะ ผมทําเองละ เครื่องรางนี้ อาจจะไม่สวยเท่า ไหร่ ถ้าเธอไม่อยากได้ล่ะก็...
เด็กหนุ่มผมฟูว่าอย่างนั้น อีกอัก ไม่ค่อยมั่นใจ มรกตคู่โตของอิซึคุกัมมองเครื่องรางในมือตนเอง ถึง สภาพมันจะไม่ได้แย่ แต่หากเทียบกันกับเครื่องรางที่ ขายตามศาลเจ้า-ของพวกนั้นคงจะมีคุณภาพกว่าเยอะ มาก ๆ
โชโตะนิ่ง กะพริบตาปริบ มองอิชิ กับเครื่องรางที่
อีกน่ามา
ก่อนจะระบายยิ้ม
“ขอบคุณนะมิโดริยะ”
“ฉันจะพกติดตัวไว้ ตอนแข่ง
มือหยิบถุงผ้าบิ้นเล็กมาจากมือของอิชิค ดวงตารี ฟ้าและเทาพินิจพิจารณาของในมือ
พรุ่งนี้เขาจะพกเจ้า ลงสนามแข่งด้วย
“อื้อ "
เล็กหนุ่มผมฟูพยักหน้า เห็นสีแดงเรื่อ ๆ บนเรียว แก้มกลม สายสาหลุบไปอีกทาง เหมือนกำลังเป็น
พรุ่งนี้สู้ ๆ นะ”
"ผมจะคอยเชียร์จากที่นั่งผู้ชม
แล้วเสียงนุ่มก็บอก คราวนี้เป็นโชโตะ หลบสาย
ตาไปอีกทาง
แล้วส่งเสียงตอบรับ หลังคอขึ้นสีแดง ๆ ไม่แพ้กับ ใบหน้าตกกระของอิชิคุ
กลายเป็นต่างฝ่ายต่างเขินกันเสียอย่างนั้น
“ผผมไป กว่า เธอจะได้นอน"
อิ คุต บทสนทนา พลางยกมือชี้ไปทางที่ตนจาก มาด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน เพราะจุดประสงค์วันนี้สุ ล่วง ก็ไม่มีเหตุอะไรให้ต้องอยู่ต่อ ถึงตามจริงจะอยาก อยู่ด้วยกันต่ออีกนิดก็เถอะ
“อืม มิโดริยะ กลับดี ๆ นะ"
โชโตะบอก โบกมือหยอย ๆ ให้อีกคนที่ใกล้จะจาก
“ไว้เจอกัน” เสียงนุ่มดังกลับมาขณะที่ร่างเล็กกำลัง เดินไป
" เจอกัน"
บอกอย่างแผ่วเบา พอไม่เห็นอีกคนในกรอบสาย ทา โชโตะก็ย่อตัวลงนั่ง กอดเข่าตัวเองอยู่กับพื้น-
รู้สึกว่าทั้งใบหน้าและหลังคอร้อนผ่าว แม้ไม่เห็น แต่ก็บอกได้แทนทีว่าตอนนี้ทั้งคอทั้งหน้าทั้งหูเขาคงจะ แดงไปหมด
หยิบเครื่องรางน่าโชคสีแดง อิ ดุ และมอบให้ กับมือขึ้นมาพิพิจ
ก่อนจะเก็บมันลงไปแล้วซุกหน้าลงกับเข่า-
ให้ตายสิ"
สบถกับตัวเองเสียงเบา
เขาชอบมิโดริยะ อิซึคุมากจริง ๆ
(3)
"เอาละ จับคันธนูให้แน่น ๆ นะ”
“ทางขาออกอีกหน่อยนึง นั่นแหละจ้ะ ถูกต้อง”
เสียงใจดีของหญิงสาวเรือนผมสีขาวบริสุทธิ์เอื้อน ดัง มือเรียวอ่อนโยนค่อย ๆ จับเด็กน้อยผมสองสีที่มี คันธนูอยู่ในมือ
“พอยืนมั่นคงแล้วก็ ค่อย ๆ ยก นครกับถือลูกธนู
นะ"
เด็กชายในชุดฮากามะพยักหน้ารับคำ ผู้เป็นแม่ คันธนูสำหรับเด็กถูกยกขึ้นพร้อมลูกศร
"เส็งช้า ๆ ถ้าคิดว่าตรงเป้าแล้วก็ค่อยยิง ไม่ต้อง รับ นั่นละ มีสมาธิ"
หญิงสาวคนเดิมบอกต่อเบา ๆ ก่อนจะปล่อยให้ เลิกชายจมอยู่กับสมาริ
ดวงตาสีต่างจดจ้องยังเป้าฝึกซ้อมสำหรับเด็ก ใบ หน้ามีรอยแผลเป็นจากอุปั เห นิ่งสงบ
ก่อนลูกธนูจะถูกปล่อยตัดผ่านอากาศ
เล็กน้อยเบิกตากว้างอย่างดีใจเมื่อเห็นผลหลังการ ยิง หันไปหาผู้เป็นแม่พร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
“ร้าว ดูสิจ๊ะ เข้าเป้าเลยนะเนี่ย โซโตะ!"
นัยน์ตาสีเทา สีเดียวกันกับข้างขวาของลูกชาย ทอประกายอบอุ่น มือเรียวคู่เดิมโอบกอดลูกน้อยจาก ด้านหลัง
"โชโตะนี่เก่งจริง ๆ นะ"
"ลูกยายของแม่ เก่งที่สุด"
โชโตะในวัย 8 ปีเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ ภาพหญิง สาวระบายรอยยิ้มอ่อนโยนสะท้อนในดวงตาสองสีสัน
ก่อนเด็กน้อยจะฉีกยิ้มออกมาตาม
(4)
เสียงเพียวดังสนั่นก่อนจะตามด้วยเสียงปัก
ลูกครถูกยิงเข้าเป้าอย่างรวดเร็วด้วยแรงส่งจาก คันธนูและผู้ใช้มัน
ท่วงท่า งดงามไม่ว่าจะตอนยิงหรือยามถือคันคร ใบหน้านิ่งเรียบราวกับกำลังจดจ่อไปที่เป้าและพันธนู ทำ เอาเด็กหนุ่มผมฟู ณ ที่นั่งผู้ชมไม่กล้าส่งเสียง ก แอะเพราะกลัวจะไปทำผู้เข้าแข่งเสียสมาธิ
อิชิคไม่ได้คุ้นเคยกับกีฬายิงธนูหรือดิวโดมากนัก รู้เพียงแต่มันคือชมรมที่โชโตะอยู่มาตั้งแต่เช้าเรียน ซึ่ง จริง ๆ ก็ได้โอชาโกะบอกมาอีกที) เรียกว่าเขากับคิวโล เหมือนอยู่กันคนละฝั่งยองโลก
พอได้มาเห็นด้วยตัวเอง ถึงได้รู้ว่าเป็นกีฬาที่กด ดันไม่น้อย
ลูกธนูกับคันศร-สนามที่ทอดยาว เป้ายิงอยู่ที่อีก ฝั่ง กระดานคะแนน โอกาสยิงเพียงหนึ่งครั้งต่อลูกธนู 1 ดอก และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นที่อยู่เรียงกัน ทุกสายตา ล้วนมุ่งมั่นหมายจะยิ่งให้สําเร็จ
อดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่าหากเป็นอิ คล่ะก็ เยาอาจ จะตื่นเต้นมากจนพลาดทุกเป้า หรือไม่ก็สั่นจนยกคัน ครไม่อั้นเสียด้วยซ้ำ
แต่โชโตะที่นั่งอยู่ตรงนั้นดูสงบนิ่ง เฝ้ารอให้ง
รอบของตัวเอง
อื ดุ เมือมรกตคู่สวยไม่ได้มองอะไรนอกจาก เพื่อนผมสองสีคนนั้น
จะตีนสนามใหมนะ? จะกังวลหรือเปล่า ?
นึกกังวล แต่ที่ทำไล้ก็เพียงแต่ส่งแรงใจ
จนเสียงเพียวและปักของผู้เข้าแข่งคนก่อนหน้า เสร็จสิ้น โชโตะก็เริมเคลื่อนไหว
ยกคันศรขึ้นสูง อีกมือจับลูกธนู ก่อนจะค่อย ๆ ลดลงจนอยู่ระดับเดียวกันกับสายตา พร้อมคันธนูที่ง้าง พร้อมจะยิง ดวงตาสีฟ้าและเทานิ่งสงบ มีเพียงเป้ายิง และธนูของตัวเองอยู่ในกรอบทัศนวิสัย หูรอรับเพียง เสียงแหวกอากาศและเสียงลูก ข้าเป้า
ใบหน้าที่ถูกจัดเรียงอย่างดียามมีสมาธินั้นงดงาม ราวจนแทบจะหยุดหายใจ
เล็กหนุ่มผมสองสีนั่งค้าง ณ ชั่วขณะที่กำลังจะ ปล่อย นคร ความลังเลปรากฏขึ้นในสมอง
ตั้งท่าได้ดีหรือยังนะ? จะโดนเป้าไหมนะ? ถ้าดอก นี้ไม่เข้า เขาอาจจะไม่ได้เข้ารอบ
ลังเลพร้อมหัวใจที่เต้นตึกตักอย่างไม่เป็นจังหวะ, มือที่จับคันธนูสั่นเบา ๆ เขาหวาดหวั่น แม้จะมีการแข่ง จะมีหลายรอบ แต่โอกาสในการยิงต่อรอบก็มีเพียงครั้ง เขียว—
จนความรู้สึกหวั่นกลัวก็ค่อย ๆ จางพร้อมจังหวะ
หัวใจที่เริ่มเส้นเป็นระเบียบ
พรุ่งนี้ ๆ นะ”
“ผมจะคอยเชียร์จากที่นั่งผู้ชม"
ภาพย้อนเรื่องราวจากเมื่อคืนเล่น เครื่องราง ที่อิซึคุให้ เขาเก็บมันไว้ติดตัว
ไม่เป็นไร จะต้องเช้าเป้าแน่
เหมือนหูได้ยินเสียงแบบนั้น น้ำเสียงอ่อนโยน รู้ ตัวอีกที่มือก็ไม่ได้สั่นเพราะความกังวลแล้ว
อบอุ่นวาบ ณ บริเวณที่เก็บเครื่องราง ถึงอิชิคจะ นั่งเชียร์อยู่ที่ข้างสนาม แต่หัวใจของโชโตะกลับรู้สึกว่า เพื่อนคนนั้นอยู่ข้างกายตัวเองตอนนี้
ใ—จะต้องไม่เป็นไร
ต้องเข้าเบ้าแน่
แล้วตัดสินใจ ลูกศรออกจากคันธนู
เสียงเพียวดังก่อนจะตามด้วยเสียง ต่อกันเพียง ไม่
มรก คู่สวยเบิกกว้าง
เสียงแหวกอากาศของลูกศร งในแก้วหู พร้อมลูก ธนู ปักกับเป้
ป้ายคะแนนที่ถูกเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์เข้าเป้าท่า เอาก้อนเนื้อในอกเส้นรัวเร็วขึ้น รอยยิ้มกว้างระบายบน ใบหน้าตกกระ
- า ฟ เ าเป้าแล้ว
รีบหันไว ๆ ไปทางโชโตะ เด็กหนุ่มผมสองสีตั้งท่า รอการยิงรอบต่อไป แม้จะจะยังดูสงบและงดงามเช่น เคย แต่ภายใต้ใบหน้ามีรอยแผลเป็นที่เรียบนิ่งจนถึง เมื่อครู่นั้นดูเปลี่ยนไปนิดหน่อย คอมยิ้ม
เหมือนโชโตะจะก๋าลังดีใจอยู่เช่นกัน
(5)
การแข่งสิ้นสุด พร้อมผลประกาศรายชื่อผู้เข้าชิง รอบถัดไป
โชโตะถอนหายใจ-ปิดตู้เก็บของ สหบผู้เข้าแข่ง ขัน ก่อนเด็กหนุ่มผมสอง ในชุดฮากามะจะเลิกคิ้ว น หน่อย ๆ เมื่อเห็นอะไรอยู่ที่ปลายสายตา
-ผ่านกระจกสีใสที่ประตูห้อง เห็นคนผมฟู ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่
เหมือนว่าจะรอเจอเขาอยู่หรือเปล่านะ?
มือคว้าเปิดประตู สองขาก้าวออกไปหาคนที่รอ อยู่ พอเห็นว่าใครออกมา เด็กหนุ่มเรือนผมสีเขียวก็หา าาว
"โทโดโรกิคุง"
คนตัวเล็กกว่ากระโดดกอด-สองแขนโอบรัดรอบ อย่างยินดี เล่นทําเอาคนทั้งคู่เซเกือบจะล้ม
มิโดริยะ ? *
โชโตะร้องชื่อ 8 อย่างประหลาดใจ วางตัวสูงกว่า ประคองเขาทั้งคู่เอาไว้ไม่ให้ล้ม แม้จะตกใจแต่ก็ไม่ได้
"ยินดีด้วยนะ เก่ง! เก่งมากเลย!"
เด็กหนุ่มผมฟูบอก ดวงตาต่างสีสันกะพริบปริบ มองอิชิคที่ดูดีใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก
แล้วก็มุดรอยยิ้ม
-ยอมใจ
และสองมือก็โอบกอดกลับ
จนอิชิ ได้รู้ตัว เมื่อสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือของอีก คนโอบล้อมอยู่รอบเอว
เด็กหนุ่มตัวเล็กผละออกช้า ๆ ด้วยท่าทีประหม่า และเขินขัดเมื่อรู้ว่าตัวเองทําอะไรไป
"ขอโทษครับ จู่ ๆ ก็กอด
"ไม่เป็นไร"
"เองก็กอดกลับไปเหมือนกัน
บทสนทนากระมิดกระเมี้ยนระหว่างพวกเขาต่า เนินไป อิ คุณรู้ว่ามันเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหนหรือเมื่อ โหร่ - บางที อาจจะตั้งแต่ตอนทีโทโดโรกิคุงเอาพวง กุญแจแมวเหมียวนันมาให้ แต่ที่รู้แน่ชัดคือหัวใจที่จะสา ระสายและความประหม่าที่เกิดขึ้นยามอยู่กับคนตัวสูง ตรงหน้า
จนเสียงอื่นดังชัด หันไปก็เจอเจ้าของเสียงอย่าง โอชาโกะ
"ขอโทษที่ต้องขัด แต่เขินกันเสร็จหรือยังเอ่ย"
เด็กสาวคนเดียวในกลุ่มเพื่อนถามแชวด้วยใบหน้า ยิ้มแย้มและน้ำเสียงแซว ๆ คนผมฟูกัมหน้างุด ด้วยไม่รู้ จะทําท่า ตอบรับกับคําแซวนั่นดี กลับกัน เด็กหนุ่มอีก คนอย่างโชโตะกลับทำหน้านิ่งเรียบ, ไม่เข้าใจว่า โอชาโกะกำลังแชว
"มิโดริยะคุงกับโทโดโรกิคุงสนิทกันขนาดนี้แล้ว
เหรอเนีย"
“ไม่ทันรู้เลยใช่ไหมล่ะ”
ตามด้วยบทสนทนาระหว่าง ตะและโอซาโกะ อิ ดะ, เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าทั้งสองคนสนิทกันไปขนาดนั้น ตั้งแต่ตอนไหน
ช่างเถอะ ก็นับว่าเป็นเรื่องดีล่ะนะ!
เด็กหนุ่มใส่แว่นพยักหน้า ก่อนเด็กมัธยมปลาย คนจะหันขวับ
- โชโตะ”
เมื่อได้เสียงใหม่ งขึ้นมาจากด้านหลัง หญิงสาว เรือนผมสีขาวแชมด้วยบ่อย เด น้อย ๆ ตามมาด้วย ชายตัวสูงที่มีเรือนผมสีเดียวกัน สีผมข้างขวา ของโซโตะ
"พี่ฟุยุมิ พี่นิต
เด็กหนุ่มในชุดฮากามะเลิก พร้อมเอ่ยเรียกชื่อ พี่ ๆ ของตัวเองอย่างประหลาดใจ โดยเฉพาะผู้เป็นพี่ ชายที่ตนไม่ได้เจอมานาน
“ไง โซโตะ” นัตสึโอะ-พี่ชายคนรองยกมือทักทาย
ใบหน้าที่ดูท่าจะมาจากทางพ่อยกรอยยิ้มกว้าง
"พี่นัตสึ ไม่เห็นบอกว่าจะมา" โซโตะถาม
“เชอร์ไพรส์ไงล่ะ"
"โทยะคุงมาไม่ได้ แต่ก็ฝากแสดงความยินดีมาละ
นะ"
นัตสึโอะตอบ พลางเดินใกล้เข้ามาหาน้องชายคน เล็ก
“ไม่เจอกันนาน ตัวสูงขึ้นใช่ไหมเนี่ย อีกนิดคงสูง กว่าฉันแล้วมั้งเนี่ย"
ก่อนลงมือขยี้หัว—เรือนผมสองสีที่ดูเหมือนจะถูก เจ้าของมันตั้งใจเซตทรงเอาไว้ยุ่งขึ้นมา
พี่นัด อย่า หัวน่า"
บอกไปแบบนั่น
"โอ้ งั้นเหรอ" นัต โอะว่าอย่างขี้เล่น โชโตะ ย หน้านิดหน่อยแต่ในใจก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือหมายจะปิด มือของพี่ชายออก, ปล่อยให้นัตสึโอะเล่นหัวตัวเองต่อ ไป
จนดวงตาสองสีแอบกวาดมอง ก่อนถอนหายใจ เบา ๆ
นัตสึโอะรู้ว่าน้องชายตัวเองกำลังมองหาอะไรอยู่
"เจ้านั่นไม่มาหรอก
จึงตอบไปเช่นนั้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายพลาง ไหวไหล
"คุณพ่อเหมือนว่าจะต้องไปต่างจังหวัดด่วนน่ะ”
ฟุยุมิบอกเสริมขึ้นมา ถึงเหตุผลแท้จริงที่เจ้า นั่นของนัตสึโอะหรือผู้เป็นพ่อของบ้านโทโดโรกิไม่ได้มา ร่วมชมงานแข่งสําคัญของลูกชายคนเล็กเช่นนี้
โชโตะพยักหน้า
“ผมไม่ได้สนใจหรอก ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะมานั่งเสีย ใจแล้วด้วย
แล้วเอ่ยเช่นนั้น
มาไม่มาก็ไม่ต่าง ยังมา จะน่ารําคาญเปล่า ๆ "
เด็กหนุ่มเรือนผมสองสีกล่าว ท่าทีเรียบนิ่ง ราวไม่ ได้คิดจะเอามาใส่ใจหรืออะไรกับมันมากมายนัก
"อะ-จริงสิ พ-พี่พึ่งเคยเจอเพื่อน ๆ ของโชโตะ นอกจากเทินยะคุ
“มิโดริยะคุงกับคุณอุรารากะสินะ โชโตะเคยเล่าให้ ฟังละ
“เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านด้วยกันสิ ทำหม้อไฟดีมั้ย โชโตะเยารอบทั้งทีก็ต้องฉลองสิเนอะ”
อยากกินโชปะ
“จะกินแต่โซบะไม่ได้นะโซโตะ”
ฟุยุมิหัวเราะยันเบา ๆ อื คลอบยิ้มกับภาพตรง หน้านิดหน่อย กับมุมเด็กน้อยของพี่ ๆ แบบนี้ของโทโด โรกิคุง
ทั้งสองคนไปนะ เห็นยะคุงด้วยนะ เดี๋ยวชวน คุณเห็นเช มาด้วย
แล้วหญิงสาวเรือนผมสียาวก็หันมาเอ่ยชวน แม้ จะเสียดายแต่ คงจะต้องปฏิเสธ
"ผมคงต้องขอผ่าน ขอโทษแล้วก็ขอบคุณที่ชวน นะครับ"
เหมือนเช่นทุก
เด็กหนุ่มโน้มหัวลงหน่อย ๆ ขณะพูด พลันหันไป สบสายตากับโชโตะที่มองมา ฉีกรอยยิ้มให้หน่อย ๆ ถึง จะปฏิเสธค้าชวนไป แต่ยังไงเย็นนี้เขาก็คงจะไป หาโชโตะอยู่ดี-ในฐานะของโชปะน่ะนะ
"พี่ฟุยุมิ ผมกับอุรารากะคุงก็คงไปไม่ได้เหมือน กัน เดี๋ยวนี่ก็จะกลับกันแล้ว”
"ใช่ไหมอุรารากะคุง"
อืตะเอ่ย พลางใช้ศอกสะกิตเค้กสาวผมสั้นเบาๆ โอยาโกะสะดุ้งน้อย ๆ หันมองเพื่อนตัวสูงอย่างงุนงง แต่พอตระหนักได้ว่านั่นเป็นสัญญาณก็เข้าใจขึ้นมา
"อ๊ะ เอ๋ อ้อ อือ ใช่ค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ”
โอยาโกะบอก ฟุยูมิท่าสีหน้าเสียดาย
"งั้นเหรอ... น่าเสียดายจัง"
“ถ้างั้นครั้งหน้า ต้องมากันให้ได้เลยนะ..."
ว่ากับเพื่อน ๆ ของน้องชาย หญิงสาวใจดี ทรอย ยืมให้กลุ่มคนอายุน้อยกว่า อิชิครู้สึกว่าดวงตาสีเดียว กันกับข้างซ้ายของโชโตะนั้นเหลือบมองมาทางตนนิด หน่อย
จนโชโตะเดินเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“มิโดริยะ ”
คนผมสอง เอ่ยเรียก อเบาเบา ๆ อิชิ เอียงคอ
“คือว่า ขอบคุณนะ”
แล้วคนตัวสูงกว่าก็เอ่ยค้าขอบคุณ เด็กหนุ่มผมฟู เบิกตานิดหน่อย เลิกคิ้วอย่างสงสัย
เอ๋? ครับ? ”
“ผมยังไม่ได้ทาอะไรเลยนะ"
อิชิ บอก น้ำเสียงอึกอัก โชโต๊ะยิ้มให้กับท่า ที่เลิกลักนั่นก่อนจะเอ่ยเสียงเบาพอได้ยินกันสองคน
ขอบคุณที่มาวันนี้ แล้วก็ “
มือเรียวแบออก ให้เห็นถุงน้อยสีแดงบนฝ่ามือ นั้น
“เครื่องรางทีให้มา”
“ขอบคุณนะ”
โชโตะกล่าวค้าขอบคุณจากใจจริงอีกครั้ง ไม่ลืมส่ง รอยยิ้มไปให้คนตัวเล็กข้าง ๆ กาย –เพราะเพื่อน ๆ เพราะอิชิคมาเชียว เพราะเครื่องราง
...ยา ได้ยิงลูกธนูออกไปได้แบบไม่หวั่นไหว
“เรื่องนั้น...
อิ คุกะพริบตาปริบ ไม่คิดว่าจะไล่รับค่าขอบคุณ จากเรื่องแบบนั้น
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายแท้ ๆ แต่ก็ดีใจ
“อื้อ”
จนกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่
(6)
“นิ-อีดะคุง”
“ทำไมถึงให้ปฏิเสธคุณพี่สาวของโทโดโรกิคุงล่ะ? *
เรื่องทีเขาชวนไปกินข้าว”
โอชาโกะเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างเส้นทางกลับ เพราะโชโตะกลับไปกับพี่ ๆ จึงเหลือแค่สามคน— โอชาโกะ เทนยะ และ คุ
"หือ อ้อ เรื่องนั้น" ฮีตะร้องตอบรับ
“โทโดโรกิคุงเขาไม่ค่อยได้เจอพี่ ๆ เลยคิดว่าให้ ได้ใช้เวลาครอบครัวกันจะดีกว่าน่ะ”
“สาเหตุเรืองนั้นมันก็ออกจะซับซ้อนหน่อย ๆ”
แล้วก็เอ่ยอธิบาย โอชาโกะพยักหน้าหงิกหงัก
"เหงี้นี่เอง”
“อืดะคุงนี่ สนิทกับโทโดโรกิคุงมากเลยสินะ”
“ก็...ฉันรู้จักกับโทโดโรกิคุงมาตั้งแต่สมัยป.4
น่ะนะ"
เลว พี่ชายของฉันกับพี่สาวของโทโดโรกิคุงก็ กำลังจะแต่งงานกันด้วย จะเรียกว่าสนิทกับโทโดโรกิคุง - คงจะได้นั่นละ
อืดะเสริมเพิ่ม เล็กสาวที่ฟังอยู่ที่ตาวาวเมื่อได้ยิน ประโยคหลัง
“เอ๊—เรื่องน่ายินดีนีนา! เมื่อไหร่เหรอ? "
“อา! ฤดูหนาวนี้น่ะ”
ใกล้แล้ว...."
บทสนทนาคําเนินไปเรื่อย • อิ เพียงแต่ฟังคำ เพื่อนสองคนพูดคุยกันเงียบ ๆ
“พี่ฟุยุมิ มีอะไรให้ช่วยไหม?”
เสียงเย็นของเด็กหนุ่มผมสองเอ่ยถามขณะที่ ชะเง้อหน้าเข้าไปในครัว ก่อนนัตสึโอะจะชะเง้อหน้าตาม เข้ามาอีกคน หญิงสาวผู้เป็นพี่โตสุดหินกลับมองน้อง ชายทั้งสองยิ้ม ๆ
นัตถิโอะ ช่วยยกพวกนี้ออกไปด้านนอกหน่อย
นะ"
เอ่ยบอกลูกชายคนที่สองของบ้าน นัต โอะพยัก หน้าพร้อมส่งเสียงตอบรับ ชายหนุ่มวัย 21 ปีสาวเท้า เข้ามาในครัวก่อนจะยกถาดอาหารขนาดใหญ่ผ่านออก ไป โชโจะมองตามผู้เป็นพี่ชาย ก่อนฟุยุมิจะมาหยุดอยู่ ตรงหน้าเขา พร้อมถาดอาหารขนาดสำหรับ 1 คนใน มือ
พี่สาวระบายยิ้มน้อย ๆ มาให้แล้วเอ่ย
“สวนโชโตะ เอานี่ไปให้คุณแม่ทีสิ
นั่งฟัง พยักหน้าแล้วรับถาดอาหารนั่นมา
นัตสึโอะกำลังจัดโต๊ะ ส่วนฟุยุมิก็กลับไปทำบาง อย่างทุกกักในครัว โซโตะก้าวเท้าไว ๆ ไปยัง ณ ส่วนนึง ยองบ้านที่พักหลังเขาไม่ได้มาบ่อยนัก มือเลื่อนเปิด ประตูบานไม้ ภายในมีบุตรีนขนาดย่อม ธูป เทียน เครื่องบูชาต่าง ๆ วางอยู่บนแท่นพร้อมรูปถ่ายของ หญิงสาว เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายของบุคคลในรูป หญิงสาวผู้มีเรือนผมสียาวและดวงตาสีควัน สีเดียวกัน กับคริงหนิ่งของเยา
บรรจงวางถาดอาหาร ณ แท่นวาง ก่อนหย่อนตัว ลงนั่งกับฟูกบนพื้น ดวงตาต่างสีสันเงยหน้ามองแม่ใน ภาพนิ่งอีกครั้ง โทโดโรกิ เรย์ มารดาผู้เสียชีวิตด้วย อุบัติเหตุตั้งแต่โชโตะยังยังไม่พ้น 8 ขวบ ผ่านมาเกือบจะสิบปีได้แล้ว แต่รอยยิ้มอ่อนโยนของแม่ที่ส่งมา ให้ผ่านภาพถ่ายยังเหมือนกับความทรงจำเมื่อยังเยาว์ วัยไม่ผิดเพี้ยนไป
เสียงครืดของไม้ขีดที่เสียดสีกับกล่อง เปลวไฟสี รถูกจุดขึ้นมา ไส้เทียน ณ แท่นบูชาสว่างไสวก่อนจะ ตามมาด้วยควันธูปลอยโขมง เสียงเคาะก้องดังกังวาน เล็กหนุ่มประกบมือสองข้างเข้าหากัน ในใจนึกพูดไป เรือย ๆ—เหมือน าลังคุยกับแ
ทั้งเรื่องการแบ่งวันนี้ เรื่องสารทุกข์สุกดิบ เรื่อง พี่ ๆ เรื่องทีโรงเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องเจ้าแมวโซบะ เก็บมาเลี้ยง ...เรื่องคนที่ชอบ เขาเล่าทุกเรื่องเท่าที่จะนึก ออกและเล่าได้ เสมือนว่ามารดาผู้ล่วงลับมานั่งอยู่ ณ ตรงหน้
จนเสียงเคาะดังแผ่วลงจนใกล้จะไร้เสียง นั่นหมาย ความว่าเวลาใกล้จะหมด เด็กหนุ่มก็ทิ้งท้ายในใจว่าตน สบายดี และไม่มีอะไรให้ผู้เป็นแม่ต้องห่วง แล้วทั้งห้อง ก็สงัดเงียบ ไม่มีอะไรก้องงกังวานอีกแ
โชโตะเงยหน้าขึ้นมองแท่นบูชาอีกครั้ง ส่งรอยยิ้ม ตอบกลับไปให้แม่ในภาพถ่าย เอ่ยคำลาเบา ๆ ในใจ ก่อนจะดับเปลวเทียนที่สว่างไ
สองเท้าก้าวออกมาจากห้อง มือค่อย ๆ เลื่อนปีล ประตู พี่ชายและพี่สาวตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่แล้ว ฟุยุ กวักมือและส่งเสียงเรียก น้องชายคนเล็กสุดของบ้าน หย่อนตัวลงนั่งช้างนัตสึโอะ พี่ชายคนรองพูดบางอย่าง ขึ้นมา ก่อนตามด้วยเสียงหัวเราะจากฟุยุมีและรอยยิ้ม ผุดขึ้นบนใบหน้าของโชโ
หากแม่คอยดูพวกเขาอยู่จากสักทีล่ะก็ อยากให้รู้ ว่าพวกเยา, พวกเราสบายดี และอยู่กันไ
ไม่อยากให้มารดาผู้เป็นที่รัก องมาเป็นห่วงเ
"จริงสิ แล้วที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างล่ะโซโต
มีแฟนหรือยัง?
นัตสึโอะถามขึ้นพลางคีบหมูสุกเข้าปาก โชโตะ แทบจะสลักเส้น ดังเมื่อไต้ น าถามประโยคหลัง "ะ"ลยด้ตะสวล้วาม่
"ยังไม่มีหรอก”
ตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงทิพยายามปั้นให้ เหมือนปกติที่สุด นัตสึโอะหันมามองน้องชาย
“แล้วคนที่ชอบล่ะ มีไหม
แล้วเอ่ยถามต่อ
คนอายุน้อยสุดในโต๊ะสะดุ้ง-คราว ตกใจเลียจน เกือบท้าตะเกียบร่วง
ชายหนุ่มเรือนผมสีขาวทําตาโตกับท่าทีตอบรับ นั่น นัตสึโอะา ชามในมือลง จ้องเด็กหนุ่มผมสองสีไม่ วางตา แม้อีกคนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความเงียบกับท่า ทางแบบนั้นของโชโตะก็พอจะเป็นคำตอบได้แล้
“เอาจริงดี ใครล่ะ เพื่อนร่วมห้องเหรอ หรือว่ารุ่น น้อง ผู้หญิงหรือผู้ชาย"
โชโตะอีกอีกเมื่อนัตสึโอะตามรัวมาอย่างตื่นเต้น เด็กหนุ่มผมสองสีผู้ไม่เคยปริปากพูดเรื่องความรักกับ ใครที่บ้านมาก่อนรู้สึกขัดเขินขึ้นมา เป็นเสียจนใบหูขึ้นสี แดงเรื่อ ๆ
“อย่าไปคะยั้นคะยอน้องลินัตสึ”
ฟุยุมิเอ่ยเตือนน้ำเสียงใจดี นัตสึโอะหันมาหาพี่ สาวแล้วเอ่ย
“พี่สาว นี่ รู้มาก่อนหรือเปล่า”
“ก็พึ่งรู้เหมือนวันนี้นี่ละ มันเดาไม่ยากนี่นา
“วันนี้ก็พึ่งเจอกันไป ใช่ไหมล่ะ โซโตะ อืม มิโดริ ยะตุง ใช่ไหมนะ? อะ-ขอนอนสีให้พี่ที"
ว่าพร้อมขอพอนสิจากผู้เป็นน้องชาย โซโตะหยิบ ชอสพอนสีแล้วยื่นส่งให้ตามคำขอ
ตัวเล็ก
“ก็...เพื่อนร่วมห้องน่ะ มาเชียร์วันนี้ คนที่ผมฟู ๆ
น้องเล็กของพี" ตอบเสียงอุบอิบ ไม่ได้ไม่สะดวก ใจที่จะพูดหรอก ก็แค่เงินที่จู่ ๆ บทสนทนาก็กลายเป็น ประเด็นเรื่องความรักของเขาเสียอย่างนั้น
"โธ่ ยิ่งน่าเสียดายเลย
“อยากจะคุยกับคนที่โชโตะชอบเสียหน่อยเถอะ”
นัตสึโอะ นงุน ตะเกียบในมือคีบเส้นอุด้งขึ้นมา แล้วถอนหายใจ
ก่อนจะนึกอะไรออก
“จริงสิ นี่ไง ก็ชวนไปงานแต่งพี่ฟุยุมิติ
ชวนแทนเจ้าของงานเลยเหรอเนีย แต่เอาส ชวน มาสโชโตะ”
ฟุยุมิบอกสนับสนุนคำของน้องชาย โซโตะหันมอง พี่สาวและพี่ชายพลันเลิกคิ้ว
*จะดีเหรอพี่ฟุยูมิ"
แล้วหาไมจะไม่ดีล่ะ? "
ลองชวนดูก็ไม่เสียหายนี่นา พี่เองก็อยากเจอมิโต ยะตุงนะ"
ฟุยุมิบอกตอบน้องชายที่ถามอย่างไม่แน่ใจ ได้ยิน แบบนั้นโชโตะก็พยักหน้าเบา ๆ
หากเจ้าของงานอย่างพี่สาวเอยเช่นนั้น การลอง ชวนอิชิ ดูก่อนก็คงไม่เสียหายอะไร
(9)
เสียงครืดดังพร้อมประตูบานเลื่อนที่ปิดสนิท
ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง หลังมื้อใหญ่ ที่ร่วมฉลองกับฟุยุมิและนัตสึโอะ
เรียกได้ว่ากินจนพุงกาง
เด็กหนุ่มตัวสูงบิดขี้เกียจเบา ๆ ก่อนเอื้อมมือเปิด
ไฟเพลาน
ห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นสว่างไสว ดวงตาสองสีเบิกขึ้น หน่อย ๆ เมื่อเห็นว่าใครมาเยือนถึงห้อง
โชบะ "
เอ่ยเรียกชื่อเจ้าเหมียวทีนั่งปักอยู่หน้าประสูติ สวน มือเลือนประตูเปิดให้ลูกแมวบนฟูเข้ามาด้านใน
"วันนี้ก็มา กนะ"
โซบะส่งเสียงเมี้ยวร้องตอบพลางเข้ามาคลอเคลีย รอบขา โชโตะกับมองแมวเหมียวตัวเล็กยิ้ม ๆ ก่อนตัด สินใจอุ้มเจ้าขนฟูขึ้นมา
เห็นเงาตัวเองสะท้อนในแววตาสีมรกต โซบะกำลัง จ้องมาที่เขา ส่งเสียงเมี้ยวให้อีกรอบ
เด็กหนุ่มตัวสูงหย่อนตัวนั่งลงบนพื้น โดยมีเจ้า เหมียว อยู่บนตัก โชโตะพ่นลมหายใจยาว
แล้วก็เริ่มเอ่ยเล่า
“วันนี้น่ะนะ ที่ไปแย่งมา ได้เข้ารอบด้วย"
“พี่ฟุยุมิกับพี่นัตสึกิมา พวกมิโดริยะก็มาเชียร์ ด้วย
"ได้เครื่องรางจากมิโดริยะด้วย
“แล้วก็ได้กำลังใจจากโชบะด้วยนะ"
ว่าจบ มือก็ยกเจ้าเหมียวตัวเล็กขึ้น ใบหน้ามีรอย แผลเป็นฉาบรอยยิ้มเอาไว้
วันนี้เขามีความสุขมากเหลือเกิน จนกลัวว่าสักวัน มันจะถูกริบคืนไป
อยากจะให้เวลาแห่งความสุขอยู่เช่น โปตลอด
“ถ้าวันดี ๆ แบบนี้มีบ่อย ๆ ก็คงจะดีนะ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น