วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566

สารรักที่ 10

 แสงไฟจากตัวเมืองสะท้อนและส่องสว่าง ขับไล่ ความมีดออกจากโมงยามแห่งราตรีกาล สองเท้าหยุด เดินดวงตากลมโตสีเขียวเงยมองประตูที่ดูสูงเมื่ออยู่ใน ร่างนี้


อิชิค จะเรียกให้ถูกตอนนี้คงเป็นโซบะ ค่อย ๆ ชุดร่างเข้าไปทางช่องเล็ก ๆ สำหรับสัตว์, ประตูแมว


จนเข้ามาในอพาร์ทเมนต์ขนาดย่อม ที่ที่เขา อาศัย


มองซ้ายขวา แอบย่องด้วยความเคยชิน ไม่อยาก ให้ผู้เป็นตารู้ว่าตัวเองออกไปด้านนอกมาในยามค่ำมืด หลังเปลี่ยนร่างเช่นนี้


ถึงจริง ๆ คุณตาจะรู้อยู่ก็เถอะ


แต่อิ คุก็ไม่อยากให้คนสูงวัยต้องมาเป็นห่วง


จนเสียงเอี๊ยดดังเมื่อใช้หัวดับประตูห้องนอนที่ถูก เปิดเอาไว้หลวม ๆ เด็กหนุ่มชะงัก เท้า


*หนุ่มน้อยอิชิ ? ยินดีต้อนรับกลับ


หูของเหมียวบนฟูลั่นดุ๊กดิ๊ก เลียงคุณตาดังชัดแม้ จะอยู่ไกล เพราะทิศทางของเสียงและกลิ่นอาหารที่โชย มา อิชิก งเดาเอาว่าชายชราน่าจะอยู่ในครัว


ใช่ คุณตารู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ห้ามหรือต่อว่าอะไร


จนบางทีก็แอบคิดว่าคุณตาตามใจเขาเกินไปหรือ เปล่านะ


เด็กหนุ่มในร่างแมวเหมียวส่งเสียงเมี้ยวตอบรับ กลับไป ก่อนยืดตัวน้อย ๆ หนึ่งที เดินผ่านประตูห้อง ของตนที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ภาพสะท้อนจากกระจกเงาต้าน ข้างกระทบเข้ามาในสายสา


เด็กหนุ่มนิ่งงัน หยุดมองภาพนั้นในกระจก


ลูกแมวตัวเค้ก ฟูาสนิทพันธุ์สกอติชโฟลด์ และดวงตาสีมรกต-ที่เหมือนกับเขายามเป็นมนุษย์


คิดขึ้นมาว่าน่ารักดี


อุ้งน้อย ๆ แปะเข้ากับกระจกสะท้อน เขาเคยโกรธ เกลียดที่ตัวเองต้องเป็นเช่นนี้ไม่อยากแม้กระทั่งจะมอง รูปลักษณ์ตัวเองยามไม่ใช่มนุษย์


แปลกดี แต่ตอนนี้ เริ่มไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว


แอบยิ้มหน่อย ๆ เมื่อนึกถึงสาเหตุของความ เปลี่ยนแปลงนั่น


เรือนผมสีต่าง ดวงตาสีเทาและฟ้าที่คอยมอง อย่างอ่อนโยน และสัมผัสรักใคร่จากมือคู่นั้น


คงเพราะโชโตะรักเจ้าเหมียวตัวนี้เอามาก ๆ เขาก็ เลย รู้รักรักตัวเองในกระจกตอนนี้มากขึ้นตามด้วย ละมั่ง?


มรกตคู่ วยป่าเลืองมองของที่วางอยู่บนโต๊ะ— พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญของโชโตะ


เขาเลยอยากจะตอบแทนอะไรคนคนนั้นเสีย หน่อย


(2)


พรุ่งนี้เป็นวันสําคัญ


แต่โชโตะกลับข่มตาหลับไม่ได้เลย


เด็กหนุ่มตัวสูงผลิกตัวยุกยิกอยู่บนฟุตง, กลิ้งไป มา, เหลือบมองนาฬิกาบอกเวลา หน้าจอมือถือ พอ เห็นว่าเวลาล่วงเลยข้ามวันมาแล้วก็ถอนหายใจเฮือก ใหญ่


พรุ่งนี้มีแข่งคิวโต เป็นการแบ่งใหญ่และสำคัญ


ราก


3/39


เพราะงั้นเลยต้องรีบนอน รีบหลับ


แสงจากหน้าจอมือถือดับลงพร้อมดวงตาสีฟ้าและ เทาของโชโตะที่ค่อย ๆ ปิด -พยายามนอน แม้ในหัวจะ มีแต่เรื่องนั่นนี้เต็มไปหมด


อย่างเช่นพรุ่งนี้ จะทําได้ดีไหมหรืออะไรอย่าง ถ้า ไม่ได้เข้ารอบขึ้นมาจะทำยังไงต่อ แห่งละ ถ้าเกิดตก รอบ เจ้าพ่อนั่นคงจะไม่ให้เขาทำอะไรแบบนี้ต่อแล้วละ


จนเสียงแจ้งเตือนมือถือดังขึ้น ดึงเรียกเขาให้หาย ฟุ้งซ่าน


มือเรียวคว้าหยิบมือถือ กดเปิดหน้าจอ ก่อนดวง เราสองสีจะเบิกกว้าง พร้อมร่างกายที่ลุกขึ้นนั่งไว ๆ


ยันตัวลุกขึ้นพรวด คว้าเสื้อคลุมมาใส่ พร้อมตรง นิ่งหมายจะออกไปนอกบ้าน


มือหยิบรองเท้า ทิ้งบ้านที่มีสนิทเอาไว้ด้านหลัง สองยารีบเร่งด้วยกลัวว่าอีกคนจะรอนาน


+...มิโดริยะ"


ส่งเสียงเรียกเพื่อนผมฟูที่ยืนรออยู่ข้าง ๆ คําแพง บ้าน อีกคนสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะหันมองมา


"โทโดโรกิคุง!"


"ย-ยังไม่หลับหรอกเหรอ อ๊ะ หรือว่าผมปลุกเธอ"


อิชิคร้องถามอย่างกังวล เพราะนี่เองก็ดึกมาก แล้ว กจนเลยข้ามมาวันใหม่เลยนั่นละ


โชโตะส่ายหน้า


"เปล่า จริง ๆ ก็นอนไม่หลับอยู่แล้วน่ะ"


ปฏิเสธและอธิบายเพิ่ม อิชิ พยักหน้าหงิกหงัก


"นี่เอง ขอโทษที่เรียกออกมากลางดึกแบบนี้นะ”


“อ...อือ ไม่เป็นไร"


ท่ามกลางความมืดมิดของกลางคืน แสงไฟข้าง ทางส่องสว่าง เด็กหนุ่มสองคนยืนอยู่ตรงนั้น—นิ่งเงียบ ไม่พูดจา เพียงแค่มองหน้ากัน


แล้วก็หลบตาหนี


เป็นจังหวะที่ชวนให้รู้สึกประหม่าและอืดอัล หน่อย


“คือว่าที่เรียกออกมา...


แล้วก็เป็นอิชิคที่เริ่มพูดขึ้นมาก่อนหลังจากเขิน อายอยู่เสียนาน


“อยากจะให้ไอ้นี่น่ะ”


สิ้นเสียงก็หยิบถุงเล็กที่ทําจากผ้าสีแดงออกมาจาก กระเป๋ากางเกง - เครื่องรางทามือ เขาหาเจ้านี่ด้วยตัว เอง แม้ด้ายเย็บจะไม่ได้เรียบร้อยมากมายนักแต่ก็ยัง พอจะมองออกว่าเป็นเครื่องราง


"พึ่งทำเสร็จไม่นานน่ะ แต่กลัวจะให้ไม่ทัน ก็เลย มาตอนนี้ ตั้งใจว่าถ้าเธอหลับไปแล้วก็จะใส่ตู้จดหมาย แล้วทิ้งย้อความไว้”


“อะ ผมทําเองละ เครื่องรางนี้ อาจจะไม่สวยเท่า ไหร่ ถ้าเธอไม่อยากได้ล่ะก็...


เด็กหนุ่มผมฟูว่าอย่างนั้น อีกอัก ไม่ค่อยมั่นใจ มรกตคู่โตของอิซึคุกัมมองเครื่องรางในมือตนเอง ถึง สภาพมันจะไม่ได้แย่ แต่หากเทียบกันกับเครื่องรางที่ ขายตามศาลเจ้า-ของพวกนั้นคงจะมีคุณภาพกว่าเยอะ มาก ๆ


โชโตะนิ่ง กะพริบตาปริบ มองอิชิ กับเครื่องรางที่


อีกน่ามา


ก่อนจะระบายยิ้ม


“ขอบคุณนะมิโดริยะ”


“ฉันจะพกติดตัวไว้ ตอนแข่ง


มือหยิบถุงผ้าบิ้นเล็กมาจากมือของอิชิค ดวงตารี ฟ้าและเทาพินิจพิจารณาของในมือ


พรุ่งนี้เขาจะพกเจ้า ลงสนามแข่งด้วย


“อื้อ "


เล็กหนุ่มผมฟูพยักหน้า เห็นสีแดงเรื่อ ๆ บนเรียว แก้มกลม สายสาหลุบไปอีกทาง เหมือนกำลังเป็น


พรุ่งนี้สู้ ๆ นะ”


"ผมจะคอยเชียร์จากที่นั่งผู้ชม


แล้วเสียงนุ่มก็บอก คราวนี้เป็นโชโตะ หลบสาย


ตาไปอีกทาง


แล้วส่งเสียงตอบรับ หลังคอขึ้นสีแดง ๆ ไม่แพ้กับ ใบหน้าตกกระของอิชิคุ


กลายเป็นต่างฝ่ายต่างเขินกันเสียอย่างนั้น


“ผผมไป กว่า เธอจะได้นอน"


อิ คุต บทสนทนา พลางยกมือชี้ไปทางที่ตนจาก มาด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน เพราะจุดประสงค์วันนี้สุ ล่วง ก็ไม่มีเหตุอะไรให้ต้องอยู่ต่อ ถึงตามจริงจะอยาก อยู่ด้วยกันต่ออีกนิดก็เถอะ


“อืม มิโดริยะ กลับดี ๆ นะ"


โชโตะบอก โบกมือหยอย ๆ ให้อีกคนที่ใกล้จะจาก


“ไว้เจอกัน” เสียงนุ่มดังกลับมาขณะที่ร่างเล็กกำลัง เดินไป


" เจอกัน"


บอกอย่างแผ่วเบา พอไม่เห็นอีกคนในกรอบสาย ทา โชโตะก็ย่อตัวลงนั่ง กอดเข่าตัวเองอยู่กับพื้น-


รู้สึกว่าทั้งใบหน้าและหลังคอร้อนผ่าว แม้ไม่เห็น แต่ก็บอกได้แทนทีว่าตอนนี้ทั้งคอทั้งหน้าทั้งหูเขาคงจะ แดงไปหมด


หยิบเครื่องรางน่าโชคสีแดง อิ ดุ และมอบให้ กับมือขึ้นมาพิพิจ


ก่อนจะเก็บมันลงไปแล้วซุกหน้าลงกับเข่า-


ให้ตายสิ"


สบถกับตัวเองเสียงเบา


เขาชอบมิโดริยะ อิซึคุมากจริง ๆ


(3)


"เอาละ จับคันธนูให้แน่น ๆ นะ”


“ทางขาออกอีกหน่อยนึง นั่นแหละจ้ะ ถูกต้อง”


เสียงใจดีของหญิงสาวเรือนผมสีขาวบริสุทธิ์เอื้อน ดัง มือเรียวอ่อนโยนค่อย ๆ จับเด็กน้อยผมสองสีที่มี คันธนูอยู่ในมือ


“พอยืนมั่นคงแล้วก็ ค่อย ๆ ยก นครกับถือลูกธนู


นะ"


เด็กชายในชุดฮากามะพยักหน้ารับคำ ผู้เป็นแม่ คันธนูสำหรับเด็กถูกยกขึ้นพร้อมลูกศร


"เส็งช้า ๆ ถ้าคิดว่าตรงเป้าแล้วก็ค่อยยิง ไม่ต้อง รับ นั่นละ มีสมาธิ"


หญิงสาวคนเดิมบอกต่อเบา ๆ ก่อนจะปล่อยให้ เลิกชายจมอยู่กับสมาริ


ดวงตาสีต่างจดจ้องยังเป้าฝึกซ้อมสำหรับเด็ก ใบ หน้ามีรอยแผลเป็นจากอุปั เห นิ่งสงบ


ก่อนลูกธนูจะถูกปล่อยตัดผ่านอากาศ


เล็กน้อยเบิกตากว้างอย่างดีใจเมื่อเห็นผลหลังการ ยิง หันไปหาผู้เป็นแม่พร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า


“ร้าว ดูสิจ๊ะ เข้าเป้าเลยนะเนี่ย โซโตะ!"


นัยน์ตาสีเทา สีเดียวกันกับข้างขวาของลูกชาย ทอประกายอบอุ่น มือเรียวคู่เดิมโอบกอดลูกน้อยจาก ด้านหลัง


"โชโตะนี่เก่งจริง ๆ นะ"


"ลูกยายของแม่ เก่งที่สุด"


โชโตะในวัย 8 ปีเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ ภาพหญิง สาวระบายรอยยิ้มอ่อนโยนสะท้อนในดวงตาสองสีสัน


ก่อนเด็กน้อยจะฉีกยิ้มออกมาตาม


(4)


เสียงเพียวดังสนั่นก่อนจะตามด้วยเสียงปัก


ลูกครถูกยิงเข้าเป้าอย่างรวดเร็วด้วยแรงส่งจาก คันธนูและผู้ใช้มัน


ท่วงท่า งดงามไม่ว่าจะตอนยิงหรือยามถือคันคร ใบหน้านิ่งเรียบราวกับกำลังจดจ่อไปที่เป้าและพันธนู ทำ เอาเด็กหนุ่มผมฟู ณ ที่นั่งผู้ชมไม่กล้าส่งเสียง ก แอะเพราะกลัวจะไปทำผู้เข้าแข่งเสียสมาธิ


อิชิคไม่ได้คุ้นเคยกับกีฬายิงธนูหรือดิวโดมากนัก รู้เพียงแต่มันคือชมรมที่โชโตะอยู่มาตั้งแต่เช้าเรียน ซึ่ง จริง ๆ ก็ได้โอชาโกะบอกมาอีกที) เรียกว่าเขากับคิวโล เหมือนอยู่กันคนละฝั่งยองโลก


พอได้มาเห็นด้วยตัวเอง ถึงได้รู้ว่าเป็นกีฬาที่กด ดันไม่น้อย


ลูกธนูกับคันศร-สนามที่ทอดยาว เป้ายิงอยู่ที่อีก ฝั่ง กระดานคะแนน โอกาสยิงเพียงหนึ่งครั้งต่อลูกธนู 1 ดอก และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นที่อยู่เรียงกัน ทุกสายตา ล้วนมุ่งมั่นหมายจะยิ่งให้สําเร็จ


อดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่าหากเป็นอิ คล่ะก็ เยาอาจ จะตื่นเต้นมากจนพลาดทุกเป้า หรือไม่ก็สั่นจนยกคัน ครไม่อั้นเสียด้วยซ้ำ


แต่โชโตะที่นั่งอยู่ตรงนั้นดูสงบนิ่ง เฝ้ารอให้ง


รอบของตัวเอง


อื ดุ เมือมรกตคู่สวยไม่ได้มองอะไรนอกจาก เพื่อนผมสองสีคนนั้น


จะตีนสนามใหมนะ? จะกังวลหรือเปล่า ?


นึกกังวล แต่ที่ทำไล้ก็เพียงแต่ส่งแรงใจ


จนเสียงเพียวและปักของผู้เข้าแข่งคนก่อนหน้า เสร็จสิ้น โชโตะก็เริมเคลื่อนไหว


ยกคันศรขึ้นสูง อีกมือจับลูกธนู ก่อนจะค่อย ๆ ลดลงจนอยู่ระดับเดียวกันกับสายตา พร้อมคันธนูที่ง้าง พร้อมจะยิง ดวงตาสีฟ้าและเทานิ่งสงบ มีเพียงเป้ายิง และธนูของตัวเองอยู่ในกรอบทัศนวิสัย หูรอรับเพียง เสียงแหวกอากาศและเสียงลูก ข้าเป้า


ใบหน้าที่ถูกจัดเรียงอย่างดียามมีสมาธินั้นงดงาม ราวจนแทบจะหยุดหายใจ


เล็กหนุ่มผมสองสีนั่งค้าง ณ ชั่วขณะที่กำลังจะ ปล่อย นคร ความลังเลปรากฏขึ้นในสมอง


ตั้งท่าได้ดีหรือยังนะ? จะโดนเป้าไหมนะ? ถ้าดอก นี้ไม่เข้า เขาอาจจะไม่ได้เข้ารอบ


ลังเลพร้อมหัวใจที่เต้นตึกตักอย่างไม่เป็นจังหวะ, มือที่จับคันธนูสั่นเบา ๆ เขาหวาดหวั่น แม้จะมีการแข่ง จะมีหลายรอบ แต่โอกาสในการยิงต่อรอบก็มีเพียงครั้ง เขียว—


จนความรู้สึกหวั่นกลัวก็ค่อย ๆ จางพร้อมจังหวะ


หัวใจที่เริ่มเส้นเป็นระเบียบ


พรุ่งนี้ ๆ นะ”


“ผมจะคอยเชียร์จากที่นั่งผู้ชม"


ภาพย้อนเรื่องราวจากเมื่อคืนเล่น เครื่องราง ที่อิซึคุให้ เขาเก็บมันไว้ติดตัว


ไม่เป็นไร จะต้องเช้าเป้าแน่


เหมือนหูได้ยินเสียงแบบนั้น น้ำเสียงอ่อนโยน รู้ ตัวอีกที่มือก็ไม่ได้สั่นเพราะความกังวลแล้ว


อบอุ่นวาบ ณ บริเวณที่เก็บเครื่องราง ถึงอิชิคจะ นั่งเชียร์อยู่ที่ข้างสนาม แต่หัวใจของโชโตะกลับรู้สึกว่า เพื่อนคนนั้นอยู่ข้างกายตัวเองตอนนี้


ใ—จะต้องไม่เป็นไร


ต้องเข้าเบ้าแน่


แล้วตัดสินใจ ลูกศรออกจากคันธนู


เสียงเพียวดังก่อนจะตามด้วยเสียง ต่อกันเพียง ไม่


มรก คู่สวยเบิกกว้าง


เสียงแหวกอากาศของลูกศร งในแก้วหู พร้อมลูก ธนู ปักกับเป้


ป้ายคะแนนที่ถูกเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์เข้าเป้าท่า เอาก้อนเนื้อในอกเส้นรัวเร็วขึ้น รอยยิ้มกว้างระบายบน ใบหน้าตกกระ


- า ฟ เ าเป้าแล้ว


รีบหันไว ๆ ไปทางโชโตะ เด็กหนุ่มผมสองสีตั้งท่า รอการยิงรอบต่อไป แม้จะจะยังดูสงบและงดงามเช่น เคย แต่ภายใต้ใบหน้ามีรอยแผลเป็นที่เรียบนิ่งจนถึง เมื่อครู่นั้นดูเปลี่ยนไปนิดหน่อย คอมยิ้ม


เหมือนโชโตะจะก๋าลังดีใจอยู่เช่นกัน


(5)


การแข่งสิ้นสุด พร้อมผลประกาศรายชื่อผู้เข้าชิง รอบถัดไป


โชโตะถอนหายใจ-ปิดตู้เก็บของ สหบผู้เข้าแข่ง ขัน ก่อนเด็กหนุ่มผมสอง ในชุดฮากามะจะเลิกคิ้ว น หน่อย ๆ เมื่อเห็นอะไรอยู่ที่ปลายสายตา


-ผ่านกระจกสีใสที่ประตูห้อง เห็นคนผมฟู ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่


เหมือนว่าจะรอเจอเขาอยู่หรือเปล่านะ?


มือคว้าเปิดประตู สองขาก้าวออกไปหาคนที่รอ อยู่ พอเห็นว่าใครออกมา เด็กหนุ่มเรือนผมสีเขียวก็หา าาว


"โทโดโรกิคุง"


คนตัวเล็กกว่ากระโดดกอด-สองแขนโอบรัดรอบ อย่างยินดี เล่นทําเอาคนทั้งคู่เซเกือบจะล้ม


มิโดริยะ ? *


โชโตะร้องชื่อ 8 อย่างประหลาดใจ วางตัวสูงกว่า ประคองเขาทั้งคู่เอาไว้ไม่ให้ล้ม แม้จะตกใจแต่ก็ไม่ได้


"ยินดีด้วยนะ เก่ง! เก่งมากเลย!"


เด็กหนุ่มผมฟูบอก ดวงตาต่างสีสันกะพริบปริบ มองอิชิคที่ดูดีใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก


แล้วก็มุดรอยยิ้ม


-ยอมใจ


และสองมือก็โอบกอดกลับ


จนอิชิ ได้รู้ตัว เมื่อสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือของอีก คนโอบล้อมอยู่รอบเอว


เด็กหนุ่มตัวเล็กผละออกช้า ๆ ด้วยท่าทีประหม่า และเขินขัดเมื่อรู้ว่าตัวเองทําอะไรไป


"ขอโทษครับ จู่ ๆ ก็กอด


"ไม่เป็นไร"


"เองก็กอดกลับไปเหมือนกัน


บทสนทนากระมิดกระเมี้ยนระหว่างพวกเขาต่า เนินไป อิ คุณรู้ว่ามันเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหนหรือเมื่อ โหร่ - บางที อาจจะตั้งแต่ตอนทีโทโดโรกิคุงเอาพวง กุญแจแมวเหมียวนันมาให้ แต่ที่รู้แน่ชัดคือหัวใจที่จะสา ระสายและความประหม่าที่เกิดขึ้นยามอยู่กับคนตัวสูง ตรงหน้า


จนเสียงอื่นดังชัด หันไปก็เจอเจ้าของเสียงอย่าง โอชาโกะ


"ขอโทษที่ต้องขัด แต่เขินกันเสร็จหรือยังเอ่ย"


เด็กสาวคนเดียวในกลุ่มเพื่อนถามแชวด้วยใบหน้า ยิ้มแย้มและน้ำเสียงแซว ๆ คนผมฟูกัมหน้างุด ด้วยไม่รู้ จะทําท่า ตอบรับกับคําแซวนั่นดี กลับกัน เด็กหนุ่มอีก คนอย่างโชโตะกลับทำหน้านิ่งเรียบ, ไม่เข้าใจว่า โอชาโกะกำลังแชว


"มิโดริยะคุงกับโทโดโรกิคุงสนิทกันขนาดนี้แล้ว


เหรอเนีย"


“ไม่ทันรู้เลยใช่ไหมล่ะ”


ตามด้วยบทสนทนาระหว่าง ตะและโอซาโกะ อิ ดะ, เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าทั้งสองคนสนิทกันไปขนาดนั้น ตั้งแต่ตอนไหน


ช่างเถอะ ก็นับว่าเป็นเรื่องดีล่ะนะ!


เด็กหนุ่มใส่แว่นพยักหน้า ก่อนเด็กมัธยมปลาย คนจะหันขวับ


- โชโตะ”


เมื่อได้เสียงใหม่ งขึ้นมาจากด้านหลัง หญิงสาว เรือนผมสีขาวแชมด้วยบ่อย เด น้อย ๆ ตามมาด้วย ชายตัวสูงที่มีเรือนผมสีเดียวกัน สีผมข้างขวา ของโซโตะ


"พี่ฟุยุมิ พี่นิต


เด็กหนุ่มในชุดฮากามะเลิก พร้อมเอ่ยเรียกชื่อ พี่ ๆ ของตัวเองอย่างประหลาดใจ โดยเฉพาะผู้เป็นพี่ ชายที่ตนไม่ได้เจอมานาน


“ไง โซโตะ” นัตสึโอะ-พี่ชายคนรองยกมือทักทาย


ใบหน้าที่ดูท่าจะมาจากทางพ่อยกรอยยิ้มกว้าง


"พี่นัตสึ ไม่เห็นบอกว่าจะมา" โซโตะถาม


“เชอร์ไพรส์ไงล่ะ"


"โทยะคุงมาไม่ได้ แต่ก็ฝากแสดงความยินดีมาละ


นะ"


นัตสึโอะตอบ พลางเดินใกล้เข้ามาหาน้องชายคน เล็ก


“ไม่เจอกันนาน ตัวสูงขึ้นใช่ไหมเนี่ย อีกนิดคงสูง กว่าฉันแล้วมั้งเนี่ย"


ก่อนลงมือขยี้หัว—เรือนผมสองสีที่ดูเหมือนจะถูก เจ้าของมันตั้งใจเซตทรงเอาไว้ยุ่งขึ้นมา


พี่นัด อย่า หัวน่า"


บอกไปแบบนั่น


"โอ้ งั้นเหรอ" นัต โอะว่าอย่างขี้เล่น โชโตะ ย หน้านิดหน่อยแต่ในใจก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือหมายจะปิด มือของพี่ชายออก, ปล่อยให้นัตสึโอะเล่นหัวตัวเองต่อ ไป


จนดวงตาสองสีแอบกวาดมอง ก่อนถอนหายใจ เบา ๆ


นัตสึโอะรู้ว่าน้องชายตัวเองกำลังมองหาอะไรอยู่


"เจ้านั่นไม่มาหรอก


จึงตอบไปเช่นนั้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายพลาง ไหวไหล


"คุณพ่อเหมือนว่าจะต้องไปต่างจังหวัดด่วนน่ะ”


ฟุยุมิบอกเสริมขึ้นมา ถึงเหตุผลแท้จริงที่เจ้า นั่นของนัตสึโอะหรือผู้เป็นพ่อของบ้านโทโดโรกิไม่ได้มา ร่วมชมงานแข่งสําคัญของลูกชายคนเล็กเช่นนี้


โชโตะพยักหน้า


“ผมไม่ได้สนใจหรอก ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะมานั่งเสีย ใจแล้วด้วย


แล้วเอ่ยเช่นนั้น


มาไม่มาก็ไม่ต่าง ยังมา จะน่ารําคาญเปล่า ๆ "


เด็กหนุ่มเรือนผมสองสีกล่าว ท่าทีเรียบนิ่ง ราวไม่ ได้คิดจะเอามาใส่ใจหรืออะไรกับมันมากมายนัก


"อะ-จริงสิ พ-พี่พึ่งเคยเจอเพื่อน ๆ ของโชโตะ นอกจากเทินยะคุ


“มิโดริยะคุงกับคุณอุรารากะสินะ โชโตะเคยเล่าให้ ฟังละ


“เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านด้วยกันสิ ทำหม้อไฟดีมั้ย โชโตะเยารอบทั้งทีก็ต้องฉลองสิเนอะ”


อยากกินโชปะ


“จะกินแต่โซบะไม่ได้นะโซโตะ”


ฟุยุมิหัวเราะยันเบา ๆ อื คลอบยิ้มกับภาพตรง หน้านิดหน่อย กับมุมเด็กน้อยของพี่ ๆ แบบนี้ของโทโด โรกิคุง


ทั้งสองคนไปนะ เห็นยะคุงด้วยนะ เดี๋ยวชวน คุณเห็นเช มาด้วย


แล้วหญิงสาวเรือนผมสียาวก็หันมาเอ่ยชวน แม้ จะเสียดายแต่ คงจะต้องปฏิเสธ


"ผมคงต้องขอผ่าน ขอโทษแล้วก็ขอบคุณที่ชวน นะครับ"


เหมือนเช่นทุก


เด็กหนุ่มโน้มหัวลงหน่อย ๆ ขณะพูด พลันหันไป สบสายตากับโชโตะที่มองมา ฉีกรอยยิ้มให้หน่อย ๆ ถึง จะปฏิเสธค้าชวนไป แต่ยังไงเย็นนี้เขาก็คงจะไป หาโชโตะอยู่ดี-ในฐานะของโชปะน่ะนะ


"พี่ฟุยุมิ ผมกับอุรารากะคุงก็คงไปไม่ได้เหมือน กัน เดี๋ยวนี่ก็จะกลับกันแล้ว”


"ใช่ไหมอุรารากะคุง"


อืตะเอ่ย พลางใช้ศอกสะกิตเค้กสาวผมสั้นเบาๆ โอยาโกะสะดุ้งน้อย ๆ หันมองเพื่อนตัวสูงอย่างงุนงง แต่พอตระหนักได้ว่านั่นเป็นสัญญาณก็เข้าใจขึ้นมา


"อ๊ะ เอ๋ อ้อ อือ ใช่ค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ”


โอยาโกะบอก ฟุยูมิท่าสีหน้าเสียดาย


"งั้นเหรอ... น่าเสียดายจัง"


“ถ้างั้นครั้งหน้า ต้องมากันให้ได้เลยนะ..."


ว่ากับเพื่อน ๆ ของน้องชาย หญิงสาวใจดี ทรอย ยืมให้กลุ่มคนอายุน้อยกว่า อิชิครู้สึกว่าดวงตาสีเดียว กันกับข้างซ้ายของโชโตะนั้นเหลือบมองมาทางตนนิด หน่อย


จนโชโตะเดินเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้


“มิโดริยะ ”


คนผมสอง เอ่ยเรียก อเบาเบา ๆ อิชิ เอียงคอ


“คือว่า ขอบคุณนะ”


แล้วคนตัวสูงกว่าก็เอ่ยค้าขอบคุณ เด็กหนุ่มผมฟู เบิกตานิดหน่อย เลิกคิ้วอย่างสงสัย


เอ๋? ครับ? ”


“ผมยังไม่ได้ทาอะไรเลยนะ"


อิชิ บอก น้ำเสียงอึกอัก โชโต๊ะยิ้มให้กับท่า ที่เลิกลักนั่นก่อนจะเอ่ยเสียงเบาพอได้ยินกันสองคน


ขอบคุณที่มาวันนี้ แล้วก็ “


มือเรียวแบออก ให้เห็นถุงน้อยสีแดงบนฝ่ามือ นั้น


“เครื่องรางทีให้มา”


“ขอบคุณนะ”


โชโตะกล่าวค้าขอบคุณจากใจจริงอีกครั้ง ไม่ลืมส่ง รอยยิ้มไปให้คนตัวเล็กข้าง ๆ กาย –เพราะเพื่อน ๆ เพราะอิชิคมาเชียว เพราะเครื่องราง


...ยา ได้ยิงลูกธนูออกไปได้แบบไม่หวั่นไหว


“เรื่องนั้น...


อิ คุกะพริบตาปริบ ไม่คิดว่าจะไล่รับค่าขอบคุณ จากเรื่องแบบนั้น


ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายแท้ ๆ แต่ก็ดีใจ


“อื้อ”


จนกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่


(6)


“นิ-อีดะคุง”


“ทำไมถึงให้ปฏิเสธคุณพี่สาวของโทโดโรกิคุงล่ะ? *


เรื่องทีเขาชวนไปกินข้าว”


โอชาโกะเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างเส้นทางกลับ เพราะโชโตะกลับไปกับพี่ ๆ จึงเหลือแค่สามคน— โอชาโกะ เทนยะ และ คุ


"หือ อ้อ เรื่องนั้น" ฮีตะร้องตอบรับ


“โทโดโรกิคุงเขาไม่ค่อยได้เจอพี่ ๆ เลยคิดว่าให้ ได้ใช้เวลาครอบครัวกันจะดีกว่าน่ะ”


“สาเหตุเรืองนั้นมันก็ออกจะซับซ้อนหน่อย ๆ”


แล้วก็เอ่ยอธิบาย โอชาโกะพยักหน้าหงิกหงัก


"เหงี้นี่เอง”


“อืดะคุงนี่ สนิทกับโทโดโรกิคุงมากเลยสินะ”


“ก็...ฉันรู้จักกับโทโดโรกิคุงมาตั้งแต่สมัยป.4


น่ะนะ"


เลว พี่ชายของฉันกับพี่สาวของโทโดโรกิคุงก็ กำลังจะแต่งงานกันด้วย จะเรียกว่าสนิทกับโทโดโรกิคุง - คงจะได้นั่นละ


อืดะเสริมเพิ่ม เล็กสาวที่ฟังอยู่ที่ตาวาวเมื่อได้ยิน ประโยคหลัง


“เอ๊—เรื่องน่ายินดีนีนา! เมื่อไหร่เหรอ? "


“อา! ฤดูหนาวนี้น่ะ”


ใกล้แล้ว...."


บทสนทนาคําเนินไปเรื่อย • อิ เพียงแต่ฟังคำ เพื่อนสองคนพูดคุยกันเงียบ ๆ





“พี่ฟุยุมิ มีอะไรให้ช่วยไหม?”


เสียงเย็นของเด็กหนุ่มผมสองเอ่ยถามขณะที่ ชะเง้อหน้าเข้าไปในครัว ก่อนนัตสึโอะจะชะเง้อหน้าตาม เข้ามาอีกคน หญิงสาวผู้เป็นพี่โตสุดหินกลับมองน้อง ชายทั้งสองยิ้ม ๆ


นัตถิโอะ ช่วยยกพวกนี้ออกไปด้านนอกหน่อย


นะ"


เอ่ยบอกลูกชายคนที่สองของบ้าน นัต โอะพยัก หน้าพร้อมส่งเสียงตอบรับ ชายหนุ่มวัย 21 ปีสาวเท้า เข้ามาในครัวก่อนจะยกถาดอาหารขนาดใหญ่ผ่านออก ไป โชโจะมองตามผู้เป็นพี่ชาย ก่อนฟุยุมิจะมาหยุดอยู่ ตรงหน้าเขา พร้อมถาดอาหารขนาดสำหรับ 1 คนใน มือ


พี่สาวระบายยิ้มน้อย ๆ มาให้แล้วเอ่ย


“สวนโชโตะ เอานี่ไปให้คุณแม่ทีสิ


นั่งฟัง พยักหน้าแล้วรับถาดอาหารนั่นมา


นัตสึโอะกำลังจัดโต๊ะ ส่วนฟุยุมิก็กลับไปทำบาง อย่างทุกกักในครัว โซโตะก้าวเท้าไว ๆ ไปยัง ณ ส่วนนึง ยองบ้านที่พักหลังเขาไม่ได้มาบ่อยนัก มือเลื่อนเปิด ประตูบานไม้ ภายในมีบุตรีนขนาดย่อม ธูป เทียน เครื่องบูชาต่าง ๆ วางอยู่บนแท่นพร้อมรูปถ่ายของ หญิงสาว เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายของบุคคลในรูป หญิงสาวผู้มีเรือนผมสียาวและดวงตาสีควัน สีเดียวกัน กับคริงหนิ่งของเยา


บรรจงวางถาดอาหาร ณ แท่นวาง ก่อนหย่อนตัว ลงนั่งกับฟูกบนพื้น ดวงตาต่างสีสันเงยหน้ามองแม่ใน ภาพนิ่งอีกครั้ง โทโดโรกิ เรย์ มารดาผู้เสียชีวิตด้วย อุบัติเหตุตั้งแต่โชโตะยังยังไม่พ้น 8 ขวบ ผ่านมาเกือบจะสิบปีได้แล้ว แต่รอยยิ้มอ่อนโยนของแม่ที่ส่งมา ให้ผ่านภาพถ่ายยังเหมือนกับความทรงจำเมื่อยังเยาว์ วัยไม่ผิดเพี้ยนไป


เสียงครืดของไม้ขีดที่เสียดสีกับกล่อง เปลวไฟสี รถูกจุดขึ้นมา ไส้เทียน ณ แท่นบูชาสว่างไสวก่อนจะ ตามมาด้วยควันธูปลอยโขมง เสียงเคาะก้องดังกังวาน เล็กหนุ่มประกบมือสองข้างเข้าหากัน ในใจนึกพูดไป เรือย ๆ—เหมือน าลังคุยกับแ


ทั้งเรื่องการแบ่งวันนี้ เรื่องสารทุกข์สุกดิบ เรื่อง พี่ ๆ เรื่องทีโรงเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องเจ้าแมวโซบะ เก็บมาเลี้ยง ...เรื่องคนที่ชอบ เขาเล่าทุกเรื่องเท่าที่จะนึก ออกและเล่าได้ เสมือนว่ามารดาผู้ล่วงลับมานั่งอยู่ ณ ตรงหน้


จนเสียงเคาะดังแผ่วลงจนใกล้จะไร้เสียง นั่นหมาย ความว่าเวลาใกล้จะหมด เด็กหนุ่มก็ทิ้งท้ายในใจว่าตน สบายดี และไม่มีอะไรให้ผู้เป็นแม่ต้องห่วง แล้วทั้งห้อง ก็สงัดเงียบ ไม่มีอะไรก้องงกังวานอีกแ


โชโตะเงยหน้าขึ้นมองแท่นบูชาอีกครั้ง ส่งรอยยิ้ม ตอบกลับไปให้แม่ในภาพถ่าย เอ่ยคำลาเบา ๆ ในใจ ก่อนจะดับเปลวเทียนที่สว่างไ


สองเท้าก้าวออกมาจากห้อง มือค่อย ๆ เลื่อนปีล ประตู พี่ชายและพี่สาวตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่แล้ว ฟุยุ กวักมือและส่งเสียงเรียก น้องชายคนเล็กสุดของบ้าน หย่อนตัวลงนั่งช้างนัตสึโอะ พี่ชายคนรองพูดบางอย่าง ขึ้นมา ก่อนตามด้วยเสียงหัวเราะจากฟุยุมีและรอยยิ้ม ผุดขึ้นบนใบหน้าของโชโ


หากแม่คอยดูพวกเขาอยู่จากสักทีล่ะก็ อยากให้รู้ ว่าพวกเยา, พวกเราสบายดี และอยู่กันไ


ไม่อยากให้มารดาผู้เป็นที่รัก องมาเป็นห่วงเ


"จริงสิ แล้วที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างล่ะโซโต


มีแฟนหรือยัง?


นัตสึโอะถามขึ้นพลางคีบหมูสุกเข้าปาก โชโตะ แทบจะสลักเส้น ดังเมื่อไต้ น าถามประโยคหลัง "ะ"ลยด้ตะสวล้วาม่


"ยังไม่มีหรอก”


ตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงทิพยายามปั้นให้ เหมือนปกติที่สุด นัตสึโอะหันมามองน้องชาย


“แล้วคนที่ชอบล่ะ มีไหม


แล้วเอ่ยถามต่อ


คนอายุน้อยสุดในโต๊ะสะดุ้ง-คราว ตกใจเลียจน เกือบท้าตะเกียบร่วง


ชายหนุ่มเรือนผมสีขาวทําตาโตกับท่าทีตอบรับ นั่น นัตสึโอะา ชามในมือลง จ้องเด็กหนุ่มผมสองสีไม่ วางตา แม้อีกคนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความเงียบกับท่า ทางแบบนั้นของโชโตะก็พอจะเป็นคำตอบได้แล้


“เอาจริงดี ใครล่ะ เพื่อนร่วมห้องเหรอ หรือว่ารุ่น น้อง ผู้หญิงหรือผู้ชาย"


โชโตะอีกอีกเมื่อนัตสึโอะตามรัวมาอย่างตื่นเต้น เด็กหนุ่มผมสองสีผู้ไม่เคยปริปากพูดเรื่องความรักกับ ใครที่บ้านมาก่อนรู้สึกขัดเขินขึ้นมา เป็นเสียจนใบหูขึ้นสี แดงเรื่อ ๆ


“อย่าไปคะยั้นคะยอน้องลินัตสึ”


ฟุยุมิเอ่ยเตือนน้ำเสียงใจดี นัตสึโอะหันมาหาพี่ สาวแล้วเอ่ย


“พี่สาว นี่ รู้มาก่อนหรือเปล่า”


“ก็พึ่งรู้เหมือนวันนี้นี่ละ มันเดาไม่ยากนี่นา


“วันนี้ก็พึ่งเจอกันไป ใช่ไหมล่ะ โซโตะ อืม มิโดริ ยะตุง ใช่ไหมนะ? อะ-ขอนอนสีให้พี่ที"


ว่าพร้อมขอพอนสิจากผู้เป็นน้องชาย โซโตะหยิบ ชอสพอนสีแล้วยื่นส่งให้ตามคำขอ


ตัวเล็ก


“ก็...เพื่อนร่วมห้องน่ะ มาเชียร์วันนี้ คนที่ผมฟู ๆ


น้องเล็กของพี" ตอบเสียงอุบอิบ ไม่ได้ไม่สะดวก ใจที่จะพูดหรอก ก็แค่เงินที่จู่ ๆ บทสนทนาก็กลายเป็น ประเด็นเรื่องความรักของเขาเสียอย่างนั้น


"โธ่ ยิ่งน่าเสียดายเลย


“อยากจะคุยกับคนที่โชโตะชอบเสียหน่อยเถอะ”


นัตสึโอะ นงุน ตะเกียบในมือคีบเส้นอุด้งขึ้นมา แล้วถอนหายใจ


ก่อนจะนึกอะไรออก


“จริงสิ นี่ไง ก็ชวนไปงานแต่งพี่ฟุยุมิติ


ชวนแทนเจ้าของงานเลยเหรอเนีย แต่เอาส ชวน มาสโชโตะ”


ฟุยุมิบอกสนับสนุนคำของน้องชาย โซโตะหันมอง พี่สาวและพี่ชายพลันเลิกคิ้ว


*จะดีเหรอพี่ฟุยูมิ"


แล้วหาไมจะไม่ดีล่ะ? "


ลองชวนดูก็ไม่เสียหายนี่นา พี่เองก็อยากเจอมิโต ยะตุงนะ"


ฟุยุมิบอกตอบน้องชายที่ถามอย่างไม่แน่ใจ ได้ยิน แบบนั้นโชโตะก็พยักหน้าเบา ๆ


หากเจ้าของงานอย่างพี่สาวเอยเช่นนั้น การลอง ชวนอิชิ ดูก่อนก็คงไม่เสียหายอะไร


(9)


เสียงครืดดังพร้อมประตูบานเลื่อนที่ปิดสนิท


ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง หลังมื้อใหญ่ ที่ร่วมฉลองกับฟุยุมิและนัตสึโอะ


เรียกได้ว่ากินจนพุงกาง


เด็กหนุ่มตัวสูงบิดขี้เกียจเบา ๆ ก่อนเอื้อมมือเปิด


ไฟเพลาน


ห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นสว่างไสว ดวงตาสองสีเบิกขึ้น หน่อย ๆ เมื่อเห็นว่าใครมาเยือนถึงห้อง


โชบะ "


เอ่ยเรียกชื่อเจ้าเหมียวทีนั่งปักอยู่หน้าประสูติ สวน มือเลือนประตูเปิดให้ลูกแมวบนฟูเข้ามาด้านใน


"วันนี้ก็มา กนะ"


โซบะส่งเสียงเมี้ยวร้องตอบพลางเข้ามาคลอเคลีย รอบขา โชโตะกับมองแมวเหมียวตัวเล็กยิ้ม ๆ ก่อนตัด สินใจอุ้มเจ้าขนฟูขึ้นมา


เห็นเงาตัวเองสะท้อนในแววตาสีมรกต โซบะกำลัง จ้องมาที่เขา ส่งเสียงเมี้ยวให้อีกรอบ


เด็กหนุ่มตัวสูงหย่อนตัวนั่งลงบนพื้น โดยมีเจ้า เหมียว อยู่บนตัก โชโตะพ่นลมหายใจยาว


แล้วก็เริ่มเอ่ยเล่า


“วันนี้น่ะนะ ที่ไปแย่งมา ได้เข้ารอบด้วย"


“พี่ฟุยุมิกับพี่นัตสึกิมา พวกมิโดริยะก็มาเชียร์ ด้วย


"ได้เครื่องรางจากมิโดริยะด้วย


“แล้วก็ได้กำลังใจจากโชบะด้วยนะ"


ว่าจบ มือก็ยกเจ้าเหมียวตัวเล็กขึ้น ใบหน้ามีรอย แผลเป็นฉาบรอยยิ้มเอาไว้


วันนี้เขามีความสุขมากเหลือเกิน จนกลัวว่าสักวัน มันจะถูกริบคืนไป


อยากจะให้เวลาแห่งความสุขอยู่เช่น โปตลอด


“ถ้าวันดี ๆ แบบนี้มีบ่อย ๆ ก็คงจะดีนะ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สารรักที่ 7

     ทาเคชินั่งมองพระจันทร์ยามเที่ยงคืนจากริมหน้าต่าง      มือหนึ่งยกขึ้นมาเท้าคาง หยาดน้ำค้างคู่สวยสงบนิ่ง เหมือนกำลังจมลึกในความคิด      เ...