วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566

สารส่งถึง

เถียงเฟี้ยวตัดอากาศดัง

พร้อมลูกธนูที่ปักเข้ากลางเป้า

มือลดคันศรลง ดวงตาสีฟ้าและเทาจ้องมองผล งานของตัวเองด้วยสีหน้าพึงพอใจ

ผ่านมาแล้ว 3 ปีนับตั้งแต่ที่อิชิ-ย้ายกลับไปบ้าน

โชโตะตัดสินใจเข้า กษาต่อในมหาวิทยาลัยและ เอาดีทางด้านคิวโต หากตอนนี้จะเรียกเป็นมือวางอัน ลับ 1 ของคณะคิวโตในมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้โอเวอร์เกิน ไปเลย

ชายผมสีต่างไถสั้นในชุดอากามะสียาวเดินละตัว ออกมาจากสนามฝึก เก็บคันธนูให้เข้า

ได้ยินเสียงริงโทนมือถือของตัวเอง พอหยิบขึ้นมา ดูก็พบว่าเป็นสายโทรเข้าจากพี่สาว

พี่ฟุยุมิ”

รับสายแล้วเอื้อนเอ่ย และได้ยินเสียงตอบกลับ จากปลายสายมาทันที

(“อะ โซโตะ”)

(วันนี้จะกลับมากินข้าวด้วยกันใช่ไหม ทีบ้าน เราน่ะ พี่โทรมาเตือน เผื่อจะลืม)

ฟุยุมิเอ่ยบอกผู้เป็นน้องชายถึงนัดรับประทาน อาหารของครอบครัวที่บ้านโทโดโรกิ

อืม ผมไม่ล้ม เดี๋ยวจะไปช่วงเย็น ๆ นะ"

“ตอนนี้ผมอยู่ที่ชมรม เดี๋ยวอีกสักพักก็กลับแล้ว”

“...อื้อ จะให้ซื้ออะไรบ้าง พิมพ์เอาไว้ในแชทก็ได้

ลูกชายคนเล็กตอบกลับผู้เป็นพี่ ใช้ใหล่ช่วยดันมือ ดือแนบหู พลางถอดถุงมือ-อุปกรณ์สําหรับดิวโด ฟังพี สาวพูดอะไรต่ออีกนิดหน่อย

“ไว้เจอกัน”

เล้วก็บอกลาและวางสาย ชายผมสีต่างเก็บมือถือ ของตัวเองเข้าในกระเป๋า ก่อนหมายมันจะจัดการสะสาง หน้า ในชมรมต่อ

ค่อย ๆ เรียงเก็บคันธนูที่ถูกใช้ให้เป็นระเบียบ รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เข้าที่

นึกคิดว่าชีวิตตัวเองตอนนี้นั่นมีความสุข

แม้จะยังไม่ได้ลงรอยกันพอดี และแม้มันอาจจะช้า ไปบ้าง แต่เอ็นจิก็ปรับปรุงตัวและแสดงให้เห็นว่าเขา อยากจะขอโทษลูก ๆ จริง ๆ กลายเป็นว่าลูกทั้ง 4 คน ของบ้านโทโดโรกิ ไม่ได้มีใครเดินทางตามสายการเมือง ของตระกูลต่อเลยสักคน

คน ดีใจที่สุดกับเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นฟุยุมิ หลัง จากแต่งงานกับเทนเซย์มาได้ 3 ปี ชีวิตก็ดูหวาน น เหมือนเดิม ซึ่งนั่นนับว่าเป็นเรื่องดี โชโจะดีใจที่เห็นพี่ ลาวมีความสุข

นัตสึโอะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ส่วนโทยะ -พี่ชายคนโตสุดก็ยังเหมือนเดิม ชอบยีหัวและหยอก เยาทุกครั้งทีได้เจอหน้า

โชโตะโก ดว่าชีวิตตัวเองตอนนี้นั้นมีความสุขดี ไม่มีอะไรขาดหาย จนรู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคดีเหลือเกิน จะมีก็แต่เรื่องเดียวที่เขายังเฝ้ารอ

“โทโดโรกิคุง

เสียงเพื่อนร่วมชมรมดังขึ้นมาแทบจะพร้อมกับ เสียงครืดของบานประตู ดวงตาสีต่างมองตาม เอียงคอ น้อย ๆ เป็นทีถามว่ามีอะไร

“มีคนมาหาน่ะ"

และค่าตอบก็ทําเอาชายผมสีต่างมุ่นคิ้ว

“ครกัน?

ถามต่ออย่างสงสัย แต่คนมาบอกข่าวก็ส่ายหน้า

“ฉันไม่รู้จักนะ เหมือนบอกว่าจะรออยู่แถว ๆ สวน หน้าชมรม"

“ไปเจอเถอะ เดี๋ยวเรื่องเก็บของพวกนี้เดี๋ยวฉันจัด การเอง

และเพราะแบบนั้น ชายผมสีต่างในชุดฮากามะจึง ได้มาอยู่ ณ สวนในมหาวิทยาลัย ไม่ไกลจากชมรมคิว โต

นัยน์ตา ต่างกวาดมองไปทั่ว หมายจะมองหาคน ทีว่า ใบไม้สีเขียวชะอุ่มยองฤดูร้อนโยกไหวเบา ๆ กลับ สายลม โชยพัดมา โซโตะหรี่ตาเมื่อยังไม่เห็นใครในที่นี้ สักคน

จนได้ยินเสียงแว่ว

“….อยู่นิ่ง ๆ นะครับ”

“ไม่ต้องกลัว ผมจะช่วยเธอเอง"

เสียงนุ่มที่แสนคุ้นเคย โชโตะจําได้ ถึงเสียงของคน ใจดี เยาแสนคิดถึง

ก้อนเนื้อในอกเริ่มเต้นขึ้นมาแรงเร็ว สองขารีบ ก้าวเดินไปตามต้นเสียง

“แบบนั้นละ นั่นละ เด็ก....

“จับได้แล้วอ้ะ”

เสียงนั้นยังคงดังต่อก่อนจะตามด้วยเสียงสวบดัง ฟังดูคล้ายมีคนร่วงจากต้นไม้-ชายผมสีเขียวฟูทอดลูก แมวตัวเล็กไว้ในมือ นั่งลูบกันป้อย ๆ ณ ไม่ไกลจากทาง เดินบริเวณต้นไม้ที่ตนปีนขึ้นไป

ดวงตาสีฟ้าและเทาเบิกกว้างกับภาพที่เห็นตรง หน้ากับคน ที่เห็นตรงหน้า

รอยยิ้มคิดคะนึงและรอยยิ้มของความยินดีระบาย บนใบหน้ามีรอยแผลเป็น

ก้าวเดินไปหาคนตัวเล็กกว่าจากด้านหลัง พร้อม หัวใจที่กำลังร้องเต้น

“ดูเหมือนจะมีคนขวางทางอีกแล้วนะ”

พูดขึ้นมาพร้อมกันหน้าคุยกับคนที่นั่งอยู่กับพื้น โชโตะที่ผมสั้นลงหน่อยจากเมื่อ 3 ปีก่อนฉีกรอยยิ้ม อ่อนโยนส่งไปให้ มองอิชิค คนที่เยาแสนรักในทรงผมฟู

ยาวระคอที่เจ้าตัวมัดเอาไว้เป็นจุกน้อย ๆ

คนแก้มกลมเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง คน รักผมสีต่างที่ไม่ได้เจอกันนาน คนที่เขาแสนคิดถึง

แล้วอิชิ ก็ฉีกรอยยิ้มกว้าง

“โชโตะคุง!"

ค้าเอ่ยเรียก อของอีกคนอย่างยินดี

-ในที่สุดก็ได้พบกันอีกครั้ง

end.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สารรักที่ 7

     ทาเคชินั่งมองพระจันทร์ยามเที่ยงคืนจากริมหน้าต่าง      มือหนึ่งยกขึ้นมาเท้าคาง หยาดน้ำค้างคู่สวยสงบนิ่ง เหมือนกำลังจมลึกในความคิด      เ...